ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating (IDR)) ของธนาคารกรุงไทย [KTB]ที่ BBB+ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
นอกจากนี้ฟิทช์ได้ประกาศคงอันดับ เครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating: GSR) ที่ bbb+ และปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) เป็น bbb จาก bbb-
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
การสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาอันดับเครดิต: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศพิจารณาจากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่าธนาคารมีโอกาสสูงที่จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจากรัฐบาลไทย (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/F1) เมื่อมีความจำเป็น การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร มีปัจจัยสนับสนุนมาจากคุณภาพสินทรัพย์และเงินกองทุนของธนาคารที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มีโอกาสในการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสูงกว่าธนาคารอื่น: KTB มีความสำคัญต่อระบบการเงินเนื่องจากเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้กำหนดให้ KTB เป็นหนึ่งในธนาคารที่มีความสำคัญในเชิงระบบของประเทศ (D-SIB) ทั้งนี้ อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB ที่ bbb+ อยู่ในระดับที่สูงกว่าธนาคารที่มีความสำคัญในเชิงระบบของประเทศไทยรายอื่น อยู่ 1 อันดับ เพื่อสะท้อนว่า KTB ยังมีสถานะเป็นธนาคารพาณิชย์เพียงแห่งเดียวที่มีภาครัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดย KTB มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับภาครัฐ รวมถึงการมีบทบาทสำคัญในการบริหารเงินสดให้แก่กระทรวงการคลัง
ภาวะอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่อ่อนแอลง: อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำในปี 2568 ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเนื่องจากเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเปิด (open economy) ที่มีสัดส่วนการค้าระหว่างประเทศค่อนข้างสูง สถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นข้อจำกัดต่อโอกาสการเติบโตและผลการดำเนินงานของธนาคาร ฟิทช์ให้อันดับคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ bbb ซึ่งเป็นในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับอันดับคะแนนที่ bbตามเกณฑ์ของฟิทช์ เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่ารัฐบาลไทยมีบทบาทสำคัญในการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงิน อาทิ มาตรการกำกับดูแลและมาตรการทางการคลังที่นำมาใช้ระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า
มีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่ง: อันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างธุรกิจของ KTB ที่ bbb สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน ธนาคารเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดเงินฝากอยู่ที่ 16% และดำเนินธุรกิจธนาคารอย่างครบวงจร นอกจากนี้ ความสามารถในการแข่งขันของธนาคารได้รับการสนับสนุนจากการเป็นธนาคารที่มีภาครัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมถึงความเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐทั้งในด้านเงินฝากและสินเชื่อ
โครงสร้างความเสี่ยงที่มีความสม่ำเสมอ: อันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างความเสี่ยงของ KTB ที่ bbb- สะท้อนถึงมาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อที่เพียงพอ โดยธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อจากหน่วยงานรัฐบาลและข้าราชการที่ค่อนข้างสูง ทั้งนี้ฟิทช์ยังพิจารณาถึงคุณภาพสินทรัพย์และอัตราส่วนสำรองหนี้สูญในอดีตของธนาคารที่มีความผันผวนกว่าธนาคารขนาดใหญ่รายอื่น รวมไปถึงการปรับตัวดีขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงปีที่ผ่านมา
คุณภาพสินทรัพย์มีเสถียรภาพแม้เผชิญกับอุปสรรค: ฟิทช์ได้ปรับเพิ่มอันดับคะแนนปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ของ KTB เป็น bbb-/แนวโน้มอันดับคะแนนมีเสถียรภาพ จาก bb+/แนวโน้มเป็นบวก สะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่าคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นนี้จะทรงตัวได้ต่อเนื่อง และอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของธนาคารจะอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับเกณฑ์สำหรับอันดับคะแนน bbb ที่ระดับต่ำกว่า 4% แม้จะมีความท้าทายในปี 2568 ทั้งนี้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของธนาคารยังคงทรงตัวที่ 3.5% ในไตรมาส 1 ปี 2568 และ ณ สิ้นปี 2567 ซึ่งถือเป็นการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 4.2% ณ สิ้นปี 2565 อัตราการเกิดหนี้เสียใหม่ (new NPL formation) ของธนาคารอยู่ในระดับปานกลาง และระดับสินเชื่อที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (Stage 2) ก็ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
ความสามารถในการทำกำไรผ่านระดับที่สูงสุดแล้ว: ฟิทช์คาดว่าความสามารถในการทำกำไรของ KTB จะได้รับผลกระทบจากสภาวะของอุตสาหกรรมและอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่า 2% ในปี 2568 (ไตรมาส 1 ปี 2568: 3.1%, 2567: 2.8%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นและแรงกดดันต่อค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญ (credit cost) ที่ลดลง ซึ่งช่วยหนุนอันดับคะแนนปัจจัยด้านรายได้และความสามารถในการทำกำไรที่ระดับ bbb-
ฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง: ฟิทช์ได้ปรับเพิ่มอันดับคะแนนปัจจัยด้านฐานะเงินกองทุนของ KTB เป็น bbb+/แนวโน้มอันดับคะแนนมีเสถียรภาพ จาก bbb/แนวโน้มอันดับคะแนนเป็นบวก ซึ่งสะท้อนถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) อย่างมีนัยสำคัญและน่าจะทรงตัวอยู่ได้ในระดับที่แข็งแกร่งได้ต่อเนื่อง อัตราส่วนเงินกองทุน CET1 ของ KTB อยู่ที่ 18.9% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 เพิ่มขึ้นจาก 16.7% ในปี 2566 เนื่องมาจากกำไรสะสมที่เพิ่มขึ้นจากความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับดีและการเติบโตของสินทรัพย์เสี่ยง (risk weighted asset) ที่ไม่สูงนัก
โครงสร้างการระดมเงินทุนที่มั่นคง: ความสามารถในการระดมเงินทุนของ KTB ได้รับการสนับสนุนจากฐานลูกค้าเงินฝากที่แข็งแกร่งของธนาคาร (อัตราส่วนของเงินฝากบัญชีกระแสรายวันและบัญชีออมทรัพย์ต่อเงินฝากทั้งหมดของธนาคารอยู่ที่ 68%) ฟิทช์เชื่อว่าอัตราส่วนที่สำคัญด้านสภาพคล่องและการระดมเงินทุนไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากนักในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการถือครองสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องในระดับสูง โดยมีอัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (LCR) อยู่ที่ 200% ณ สิ้นปี 2567
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน): อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB อาจได้รับการปรับลดอันดับเครดิต หากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลถูกปรับลดอันดับ
อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB อาจถูกปรับลดอันดับ หากโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารมีการปรับตัวด้อยลง ตัวอย่างเช่น การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยอาจบ่งชี้ถึงความสามารถของรัฐบาลในการให้การสนับสนุนแก่ธนาคารปรับตัวด้อยลง นอกจากนี้อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลยังอาจถูกปรับลดอันดับได้ในกรณีที่ฟิทช์มองว่าโอกาสในการให้การสนับสนุนจากรัฐบาลมีการปรับตัวลดลง เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสำคัญต่อระบบการเงินและส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝาก หรือการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงกับรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง
การพิจารณาอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB ยังพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตของธนาคารที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ KTB อาจถูกปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารถูกปรับลดอันดับลง
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB อาจถูกปรับลดอันดับลง หากสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจมีการปรับตัวแย่ลงกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย และอาจส่งผลให้มีการทบทวนอันดับคะแนนปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคาร ตลอดจนอันดับคะแนนปัจจัยด้านอื่นๆ ที่ใช้พิจารณาอันดับด้านความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของ KTB
การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของ KTB อาจบ่งชี้จากฐานะทางการเงินของธนาคารที่มีการปรับตัวด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญซึ่งส่งผลให้มีการปรับลดอันดับคะแนนหลายปัจจัยในคราวเดียว ตัวอย่างช่น ค่าเฉลี่ย 4 ปีของอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ 6%
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน): อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล
อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB เป็นอันดับเครดิตสูงสุดแล้ว จึงไม่มีโอกาสได้รับการปรับเพิ่มอีก
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB อาจเกิดขึ้นได้หากมีการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์จะพิจารณาด้วยว่าโอกาสในการให้การสนับสนุนของรัฐบาลว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB เป็น bbb+ นั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในระยะสั้นถึงระยะปานกลางเนื่องจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB เพิ่งได้รับการปรับเพิ่มอันดับ ทั้งนี้ การปรับเพิ่มอันดับจะต้องได้รับการสนับสนุนจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของธนาคารมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งแสดงว่าความสามารถในการแข่งขันของธนาคารมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่รายอื่น โดยอาจบ่งชี้ได้จากการที่ธนาคารสามารถดำรงค่าเฉลี่ย 4 ปีของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงสามารถอยู่ในระดับที่สูงกว่า 3%ได้อย่างต่อเนื่อง หรือหากค่าเฉลี่ย 4 ปีของอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินทรัพย์ลดลงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 3% ควบคู่ไปกับการรักษาอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อหนี้สินด้อยคุณภาพในระดับสูงที่ไม่ต่ำกว่า 120% และการมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 16%
อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต โครงการหุ้นกู้ Medium-Term Note (MTN) มูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของ KTB ได้รับการจัดอันดับที่ BBB+ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับอันดับเครดิตสากลระยะยาวของธนาคาร เนื่องจากการออกตราสารภายใต้โครงการนี้สะท้อนถึงภาระผูกพันที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร
หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ของธนาคารได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB อยู่ 2 อันดับ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ในการจัดอันดับของฟิทช์เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน
ฟิทช์ไม่ได้มีการปรับลดอันดับเครดิตเพิ่มเติมสำหรับความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากตราสารไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) เช่น คุณสมบัติของการยกเลิกหรือการเลื่อนจ่ายดอกเบี้ย
ทั้งนี้ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เป็นอันดับเครดิตอ้างอิงของหุ้นกู้ดังกล่าว เพื่อสะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ KTB ก่อนที่จะถึงจุดที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Long-Term IDR(xgs)) ของ KTB ตามการปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Short-Term IDR(xgs)) พิจารณาจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลและเทียบได้กับ F3(xgs) เนื่องจากอันดับคะแนนด้านการระดมเงินทุนและสภาพคล่องนั้นยังไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของฟิทช์ที่อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า bbb+ จึงจะทำให้ได้รับการเทียบอันดับที่สูงขึ้น ทั้งนี้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของธนาคารก็ถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของธนาคาร
อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต:ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน): การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวจะส่งผลในทิศทางเดียวกับอันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ Medium-Term Note (MTN)
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิอาจได้รับการปรับลดอันดับตามการปรับลดอันดับของอันดับเครดิตอ้างอิง ซึ่งก็คืออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร ดังนั้นการปรับลดอันดับของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB อาจนำไปสู่การปรับลดอันดับของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลอาจได้รับการปรับลดอันดับเครดิต หากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินถูกปรับลดเป็น bb+
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน): อันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ Medium-Term Note (MTN) อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของ KTB และอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ
อันดับเครดิตสากลที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (xgs) อาจถูกยกเลิกได้ หากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB ได้รับการปรับเพิ่มอันดับขึ้นมาที่ bbb+ หรือสูงกว่า ซึ่งจะบ่งชี้ว่าอันดับเครดิตของ KTB จะไม่มีปัจจัยด้านการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาอันดับเครดิต