นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งตัวไซด์เวย์ ยังไม่มีปัจจัยลบใหม่ หลังเมื่อวานได้รับข่าวข้อตกลงยุติการยิงของอิสราเอลและอิหร่าน รวมถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้านบาท ทำให้เป็นสัญญาณที่ดีกับการลงทุน แต่ตลาดได้ตอบรับ 2 ประเด็นบวกนี้ไปมากแล้ว ทำให้ตลาดวันนี้เข้าสู่ช่วงชะลอตัว ลดความร้อนแรงจากเมื่อวาน
แนวโน้มในวันนี้ แนะนำให้ติดตามผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยคาดว่าน่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% เท่าเดิม แต่หากมีการปรับลดก็จะเป็นปัจจัยเซอร์ไพรส์เชิงบวกให้กับตลาดได้ ส่วนปัจจัยภายนอก ให้ติดตามรายงานตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ และการแถลงการณ์รอบครึ่งปีของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นายเจอโรม พาวเวล ว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรส
โดยให้กรอบแนวรับ 1,090 จุดและแนวต้าน 1,110 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,089.02 จุด เพิ่มขึ้น 507.24 จุด หรือ +1.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,092.18 จุด เพิ่มขึ้น 67.01 จุด หรือ +1.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,912.53 จุด เพิ่มขึ้น 281.56 จุด หรือ +1.43%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,904.18 จุด เพิ่มขึ้น 113.62 จุด หรือ +0.29%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 24,327.82 จุด เพิ่มขึ้น 150.82 จุด หรือ +0.62% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,419.09 จุด ลดลง 1.48 จุด หรือ -0.04%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 มิ.ย.) 1,100.01 จุด เพิ่มขึ้น 37.23 จุด (+3.50%) มูลค่าซื้อขาย 52,840.03 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (24 มิ.ย.) 272.25 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. (24 มิ.ย.) ลดลง 4.14 ดอลลาร์ หรือ 6.04% ปิดที่ 64.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(24 มิ.ย.) 5.48 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.63 แนวโน้มแกว่ง Sideways รอลุ้นมติประชุมกนง.บ่ายนี้
- ครม.ไฟเขียว อัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตแรก 481 โครงการ รวม 8,939 รายการ วงเงิน 115,375 ล้านบาท กระจายไปยัง 50 หน่วยงาน คาดจ้างงาน 7.4 ล้านคน ดัน GDP โตเพิ่ม 0.4% ขณะที่วงเงินที่เหลืออีก 4 หมื่นล้านบาท เฟส 2 มุ่งเป้า อปท. ทั่วประเทศ
- บอร์ดคัดเลือกผู้ว่า ธปท.คนใหม่ ส่ง 2 ชื่อ "รุ่ง-วิทัย" ให้ รมว.คลัง เคาะก่อนเสนอ ครม.เดือนหน้า หลังแสดงวิสัยทัศน์ครบ "พิชัย" เปิดใจสเปกต้องทำงานร่วมกับคลังราบรื่น รับมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย "ปลัดคลัง" หวังเข้าใจลึกซึ้งนโยบายการเงิน
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีแผนปรับปรุงเกณฑ์ Free Float และการเสนอขายหุ้น ต่อประชาชนเป็นการทั่วไป (IPO) สำหรับบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai (New Listing) ให้มีความชัดเจน สอดคล้องสากล เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในการเข้าจดทะเบียน และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันกับตลาดหลักทรัพย์ฯในภูมิภาค หวังผลักดันตลาดหุ้นไทยเป็น "Listing Hub" หรือศูนย์กลางในการระดมทุนของภูมิภาค
- ปิดด่านชายแดนทางบก ส่งออก-นำเข้าสินค้ากระทบหนัก สภาธุรกิจไทย-กัมพูชา คาดเสียหายวันละ 500 ล้าน ขอมาตรการเยียวยาผู้ค้า "ซอฟต์โลน-งดจ่ายภาษี" ด้านผู้ประกอบการรายใหญ่เผยยังไหว เตรียมตั้งรับระยะยาว ผู้ค้ารายย่อยเริ่มเปลี่ยนอาชีพ ขนส่งสินค้าทางบกไม่ได้ หันไปใช้เส้นทางทะเลแทน
- ส.อ.ท.ปลื้มเห็นแววยอดผลิตรถยนต์ฟื้น งวด พ.ค.โต 10.32% เพิ่มขึ้นในรอบ 21 เดือน ชี้อานิสงส์จากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV และ PHEV โตทะลุ 600% ดันยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 อยู่ที่ 52,229 คัน
- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (24 มิ.ย.) ได้เห็นชอบงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 115,375 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นงบด้านท่องเที่ยว 10,053 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งนั้นเป็นวงเงิน 1,760 ล้านบาท โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่สนใจได้ลงทะเบียนเข้าโครงการแล้ว และวันนี้ (25 มิ.ย.) จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน
- หอการค้าไทยเร่งคณะเจรจาสหรัฐฯ รีบเดินเครื่องให้เกิดความชัดเจน หวั่นกระทบฤดูรับคำสั่งซื้อปลายปี เผยเห็นสัญญาณชะลอสั่งซื้อสินค้าไทยตั้งแต่เดือน พ.ค.68 ต่อเนื่องมาถึง มิ.ย. และ ก.ค. ไม่เช่นนั้นส่งออกครึ่งปีหลังกระอักแน่ ยันจุดยืนสนับสนุนรัฐบาลและกองทัพไทยเต็มที่กรณีกัมพูชา ช่วยกระจายผัก-ผลไม้ที่ส่งออกไปไม่ได้
- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-22 มิ.ย. 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสม 16,043,941 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 743,582 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 2,190,363 คน จีน 2,172,944 คน อินเดีย 1,133,696 คน รัสเซีย 1,015,077 คน และเกาหลีใต้ 745,887 คน
*หุ้นเด่นวันนี้
- MTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 56 บาท โมเมนตัมกำไรไตรมาส 2/68 คาดว่ายังดูดีที่สุดในกลุ่ม จากทั้งสินเชื่อที่คาดว่ายังเติบโต ขณะที่ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังแข็งแรงและจัดการได้ดี ทำให้ Credit cost โดยรวมคาดว่าจะลดลง ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากครม.คาดช่วยหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวได้บ้างในระยะถัดไป เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 7.1 พันลบ. +21% y-y ระยะสั้น Bond Yield ทั่วโลกที่ขยับลง รวมถึงการประชุมกนง.วันนี้หากปรับลดดอกเบี้ยลงจาก 1.75% เหลือ 1.5% จะ Surprise ตลาดที่ 70% คาดจะคงดอกเบี้ย
- TIDLOR (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20.00 บาท กำไรไตรมาส 1/68 เติบโตได้ดีกว่าตลาดคาด แรงหนุนจากคุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งขึ้นจากไตรมาส 4/67 และคาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 เติบโต y-y จากสินเชื่อขยายตัว และคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ได้รับการเข้าคำนวนในดัชนี SET50 ในรอบ 2H25 แม้เราคาดว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยรอบนี้ แต่อาจส่งสัญญาณในการปรับลดดอกเบี้ยในช่วงถัดไป ซึ่งถือเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์
- GULF (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 61.00 บาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 (งบก่อนควบรวม) 5.4 พันล้านบาท +YoY จากการเติบโตของโรงไฟฟ้า IPP ปลวกแดง และหินกอง COD ครบทุก unit เต็มไตรมาส ส่วนโรงไฟฟ้า Renew มี COD ใหม่ในโครงการ Solar+BESS เข้ามาเป็นไตรมาสแรก นอกจากนี้ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Wind GULF GUNKUL เพิ่มขึ้นตามกำลังลมที่แรง รับรู้กำไรจาก INTUCH เพิ่มขึ้นโดยหลักจากผลประกอบการของ ADVANC ที่ดี / สำหรับกำไร +QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่ IPP ผ่าน low season รวมถึงส่วนแบ่งกำไรทั้งจาก IPP wind และสื่อสารที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไร 2Q68 คาดกำไรโตต่อ QoQ, YoY เป็น high season demand กำไรจาก ADVANC ก็ยังดี data center phase แรกเริ่มเปิดเดือน พ.ค.นี้ และรับเงินปันผลจาก KBANK ระยะถัดไปยังคงมีปัจจัยหนุนจากการควบรวมและตั้งบริษัทใหม่ ทำให้งบดุลแข็งแกร่งเพิ่มความสามารถในการลงทุนขยายธุรกิจใหม่ทางด้าน Data center และ AI Cloud Solutions