บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) หรือ UOBKH มองว่ามีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยอีก 2 ครึ่งในครึ่งปีหลัง จึงมองเป็นโอกาสสะสมหุ้น 1) กลุ่ม Consumer Finance อาทิ MTC, TIDLOR, 2) กลุ่มโรงไฟฟ้า จากการได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง และ Valuation re-rating อาทิ EGCO, RATCH, และ 3) กลุ่ม External Play ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในประเทศจำกัด อาทิ IVL, SCGP
UOBKH ระบุว่า กนง.รอบนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 6:1 แต่เราประเมินเศรษฐกิจไทยจะมีความท้าทายในช่วง H2/68 จากทั้งปัจจัยในประเทศที่การใช้จ่ายชะลอตัว และปัจจัยภายนอกจากความไม่แน่นอนของมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ แม้ในการประชุมครั้งนี้ กนง.จะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่เราประเมิน กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยในครึ่งปีหลังอีกราว 2 ครั้ง (ครั้งละ 0.25%) เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ กนง.ได้ปรับประมาณการ GDP ของไทยปี 68 ขึ้นจาก 2.0% เป็น 2.3% จากการเร่งการส่งออกและภาคการผลิตที่ดีกว่าคาด แต่ปรับประมาณการ GDP ปี 69 ลงจาก 1.8% เหลือ 1.7% เพราะคาดว่าผลของมาตรการภาษีการค้าสหรัฐจะเห็นชัดเจนขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ แม้ กนง.จะปรับประมาณการ GDP ปีนี้ขึ้น แต่โดยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกดีกว่าคาด ขณะที่เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะมีความท้าทายมากขึ้น