AOT ลบ 2.40% มาที่ 30.50 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 296.69 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. จากราคาเปิด 31.25 บาท ราคาสูงสุด 31.25 บาท และราคาต่ำสุด 30.50 บาท
นายปริญญ์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากที่คณะกรรมการบมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] อนุมัติให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยาน ของ ทอท.ทั้ง 5 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่อง ทั้ง 3 สัญญา ออกไป 8 เดือน ส่งผลกระทบ Sentiment เชิงลบ สะท้อนว่าคิงเพาเวอร์ ประสบปัญหาสภาพคล่อง ยิ่งในช่วงนี้ที่เป็นช่วง Low Season ยิ่งไม่มีสภาพคล่องพอที่จะจ่ายผลตอบแทนให้ AOT
อย่างไรก็ตาม AOT ยังไม่เสียประโยชน์ เพราะมีการเรียกหลักประกันเพิ่มอีก 1,450 ล้านบาท หากกลุ่มคิงเพาเวอร์ไม่จ่ายก็ยึดหลักประกันได้
นายปริญญ์ กล่าวว่า แต่ในระยะถัดไป ที่ AOT เจรจาแก้สัญญาทั้งหมดกับคิงเพาเวอร์ มีโอกาสที่จะปรับมาใช้เกณฑ์ Revenue Sharing อัตรา 20% แทน Minimum Guarantee เพราะวิธีนี้จะจ่ายน้อยกว่า ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ของ AOT ที่คาดว่าจะสูญรายได้หลายพันล้านบาท/ปี ตลอดอายุสัญญาคิงเพาเวอร์ที่จะหมดในปี 72
ทั้งนี้ มองว่าทางออกที่เหมาะสม (โดยไม่ยกเลิกสัญญา) จะเป็นการปรับเปลี่ยนจากการกำหนด Minimum Guarantee เป็นการจัดแบ่งส่วนแบ่งรายได้ที่ 20% สำหรับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ตามสัญญาสัมปทานจากปี FY69F เป็นต้นไป (เริ่มจากเดือนตุลาคม 2568) ซึ่งจะทำให้ รายได้จะลดลงจากประมาณการเดิม 14.1% EBIT marginจะลดลง 4ppts และ กำไรสุทธิลดลง 24.9% ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2568F จะอยู่ที่ 1.90 หมื่นล้านบาท (-0.7% YoY)และในปี 2569F จะอยู่ที่ 1.56 หมื่นล้านบาท (-17.9% YoY) จึงแนะนำเพียง"ถือ" ที่ราคาเป้าหมาย 29.00 บาท