นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหฺ้นไทยวันนี้คาดแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยที่รอติดตามการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณารับหรือไม่รับคำร้องเรื่องคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งหากศาลพิจารณาไม่รับคำร้องก็อาจเป็นปัจจัยบวกให้แก่ตลาดได้ แต่หากรับคำร้องก็อาจกลับมากดดันตลาดหุ้นไทยได้เช่นกัน
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน โดยที่ยังคงต้องติดตามปัจจัยเกี่ยวกับภาษีการค้าของสหรัฐ หลังประธานาธิบดีสหรัฐไม่ขยายระยะเวลาการเริ่มเก็บภาษีตอบโต้ 9 ก.ค.นี้ ซึ่งยังคงต้องติดตามการเจรจากการค้าของไทยและสหรัฐด้วยว่ามีความคืบหน้าอย่างไร
โดยให้แนวต้าน 1,100 จุด แนวรับ 1,080 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (30 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,094.77 จุด เพิ่มขึ้น 275.50 จุด หรือ +0.63%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,204.95 จุด เพิ่มขึ้น 31.88 จุด หรือ +0.52% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,369.73 จุด เพิ่มขึ้น 96.27 จุด หรือ +0.47%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 40,340.64 จุด ลดลง 146.75 จุด หรือ -0.36% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,445.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.42 จุด หรือ +0.04% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันก่อตั้งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 มิ.ย.) 1,089.56 จุด เพิ่มขึ้น 7.14 จุด (+0.66%) มูลค่าซื้อขาย 47,225.04 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (30 มิ.ย.) 118.87 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. (30 มิ.ย.) ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 65.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 มิ.ย.) 5.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.42 เกาะติดศาลรธน.ชี้ชะตา "แพทองธาร" คาดกรอบวันนี้ 32.30-32.60
- นายกฯ รับกังวลศาล รธน.สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ บอกไม่อยากให้งานรัฐบาลสะดุด แจงนั่งควบ วธ. ไม่เกี่ยวคดี แต่อยากผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ พร้อมรับฟังโพลทุกสำนัก ชี้ผลโพลดีเป็นกำลังใจ มองม็อบมีสิทธิแสดงออก ยืนยันเดินหน้าทำงาน มีหลายเรื่องที่รอไม่ได้ "วิสุทธิ์" ยันไม่กังวล ศาล รธน.จะพิจารณาปม สว.ร้องนายกฯ ฝ่าฝืนจริยธรรม ชี้คะแนนนิยม "อิ๊งค์" ตก แต่เชื่อโพลตีกลับ ถ้าแกปัญหาปากท้องได้ - "พิชัย" นำทีมบินด่วน ถกภาษีนำเข้าไทย-สหรัฐฯ 3 ก.ค.นี้ "จุลพันธ์" ยันทีมเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ คำนึงถึงผลกระทบ ปชช.ทั้งเชิงบวกและลบ มั่นใจ กระบวนการเดินหน้าได้-ไม่ยืดเยื้อทำส่งผลปรับอัตราภาษี นายกฯ หวัง "พิชัย" ยกทีมเจรจา กำแพงภาษีสหรัฐฯ ได้ข้อสรุป อุบตอบเป้าตัวเลขลดภาษี
- ธปท.คาดเศรษฐกิจไทยระยะข้างหน้ายัง "ชะลอลง" เหตุ "ท่องเที่ยว-ส่งออก" ยังไม่ฟื้น จับตา 4 ปัจจัยฉุดรั้ง "นโยบาย การค้า-พัฒนาการท่องเที่ยว-การแข่งขันธุรกิจ-ความขัดแย้งในและนอกประเทศ" จาก พ.ค. ยังชะลอต่อเนื่อง "ท่องเที่ยว-รัฐใช้จ่าย" วูบหนัก ยันบาทแข็งค่าสอดคล้องปัจจัย พื้นฐานและสกุลอื่น "กอบศักดิ์" ชี้เศรษฐกิจไทย ปีนี้ "ยาก-ไม่ง่าย" เสี่ยงต่ำ 1.5% ห่วงการเมืองฉุดท่องเที่ยว
- ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้ำหนักแน่น "อย่าให้มีการปฏิวัติ" หวั่นนักลงทุนหนีหายไม่กล้าลงทุน พร้อมแนะก่อนลงทุนควรใช้ข้อมูลเข้ามาประกอบให้รอบด้าน ท่ามกลางปัจจัยลบรุมเร้า โดยเฉพาะประเด็นการเมือง ด้าน "อัสสเดช" เผยธุรกิจปัจจุบัน และธุรกิจใหม่ ทาง ตลท.จะช่วยให้สามารถเข้าถึงตลาดทุนด้วยการระดมทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจให้แข็งแกร่ง พร้อมจับตา Capped Weight เริ่มวันนี้ จำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวสูงสุดไม่เกิน 10% เงินไหลออก DELTA เข้า 5 หุ้นบิ๊กแคปแทน ADVANC, PTT, GULF, AOT และ CPALL
- ททท.คิกออฟ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" วันนี้ย้ำต้องยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaID ก่อนสมัครรับสิทธิ์ คาดปีนี้ไทยเที่ยวเพิ่มขึ้นแตะ 69 ล้านคน ดีกว่าครั้งก่อน ผนึกตลาดหลักทรัพย์ดึงบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วม ยกคุณภาพ ESG ดึงดูดยุโรปที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวคุณภาพ และใช้จ่ายค่อนข้างสูง ส่วนทัวร์จีนเริ่มเชื่อมั่นมีลุ้นโกลเด้นวีค
- สศอ.เผยดัชนีเอ็มพีไอ พ.ค.2568 ขยายตัว 1.88% เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ได้แรงหนุนจากออร์เดอร์รถงานมอเตอร์โชว์-คู่ค้าสหรัฐเร่งนำเข้าสินค้าก่อนไทยถูกขึ้นภาษี
*หุ้นเด่นวันนี้
- BH (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 180.00 บาท ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงตอบรับปัจจัยลบจากกำไรปีนี้ที่คาดจะหดตัว รวมทั้งความไม่แน่นอนของผู้ป่วยกาตาร์ การขยายตลาดนอกกลุ่มตะวันออกกลางมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีศักยภาพในการรักษาโรคที่มีความซับซ้อนด้วยนวัตกรรมชั้นสูง Valuation ปัจจุบันเทรดเพียง PE 15 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -2SD น่าสะสม
- SCC (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 170.00 บาท แนวโน้มไตรมาส 2/68 คาดผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นต่อจากปรับขึ้นราคาขายด้วยการลดส่วนลดทางการตลาดและได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง ขณะที่อัตรากำไรของธุรกิจปิโตรเคมีดีขึ้นจากต้นทุน naphtha ที่ลดลงตามราคาน้ำมัน รวมถึง SCGP ที่ทยอยฟื้นตัว มีการบันทึกรายได้เงินปันผลตามฤดูกาล และกำไรพิเศษจากการเข้าซื้อกิจการในสิงคโปร์ นอกจากนี้มีประเด็นบวกจาก SCGC ขายหุ้น CAP 10% ส่งผลให้เปลี่ยนสถานะจากบริษัทร่วม เป็นเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งทำให้มีกำไรพิเศษจากการประเมินมูลค่ายุติธรรม และกำไรจากการขายหุ้นเข้ามาอีก สอดคล้องกับแผนลดภาระทางการเงินของบริษัท ไม่ต้องรับส่วนแบ่งขาดทุนจาก CAP เข้ามาในงบ/รอรับเงินปันผลแทน และได้เงินสดกลับมาเสริมสภาพคล่อง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 8 พันล้านบาท +26%YoY และ 1.2 หมื่นล้านบาท +52%YoY
- SPALI( กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 16.30 บาท มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวในช่วงที่ผ่านมาเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว จากการฟื้นตัวของกำไรในปี 2026 จากการโอน backlog คอนโดฯ ที่ดีขึ้นและการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนการตลาดของ SPALI ทั้งนี้บริษัทมีงบดุลที่แข็งแกร่ง (อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิอยู่ในช่วง 0.5-1.0 เท่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา) บ่งชี้ถึงความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินอยู่ในระดับต่ำ รวมไปถึง Net IBD/EBITDA ต่ำที่สุดในกลุ่ม ที่ 3.4 เท่า ในส่วนของมูลค่าหุ้น PBV ปี 2025 ซื้อขายเพียง 0.48x หรือต่ำกว่า 2SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5ปี ประกอบกับคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 2025 ที่ระดับ 9%