บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ [EA] ปรับแผนการเลื่อนกำหนดชำระหุ้นกู้ จากเดิมที่เคยเสนอไว้ 7 ปี ลดเหลือเพียง 5 ปี พร้อมคงกำหนดชำระเงินต้น-สิทธิประโยชน์ดอกเบี้ยเช่นเดิม โดยจะนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งหน้าในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568
นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน EA กล่าวว่า ถึงแม้ว่าในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นกู้ 3 รุ่นได้อนุม้ติเลื่อนระยะเวลาไถ่ถอนออกไป 7 ปีช่วยให้บริษัทสามารถบริหารสภาพคล่องได้อย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อให้บริษัทสามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาวสำหรับหุ้นกู้รุ่นที่เหลือ บริษัทจึงพิจารณาปรับเลื่อนกำหนดชำระหนี้หุ้นกู้เหลือเพียง 5 ปี
สำหรับหุ้นกู้ 3 รุ่น ได้แก่ EA257A, EA259A และ EA261A ที่ได้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ไปแล้ว บริษัทจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของแต่ละรุ่นอีกครั้ง ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เพื่อเสนอให้พิจารณาเงื่อนไขใหม่ตามข้อเสนอที่ปรับปรุงเพิ่มเติม หากที่ประชุมให้ความเห็นชอบ หุ้นกู้ในแต่ละรุ่นจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามแผนใหม่นี้โดยอัตโนมัติ แต่หากไม่เห็นชอบ บริษัทจะยังคงดำเนินการตามเงื่อนไขเดิมที่ได้รับความเห็นชอบไว้แล้วก่อนหน้า
ในช่วงเวลาเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้แจ้งการขึ้นเครื่องหมาย Cash Balance บนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.68 เป็นต้นไป อันเป็นผลจากกรณีที่ ThaiBMA ขึ้นเครื่องหมาย DNP (Default Not Related to Payment) บนหุ้นกู้ EA257A เนื่องจากวาระที่ 4 ยังไม่ได้รับความเห็นชอบในการประชุมรอบก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อสถานะทางการเงินของบริษัท รวมถึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผิดนัดชำระแต่อย่างใด และเมื่อการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งถัดไป สามารถลงมติอนุมัติวาระที่เกี่ยวข้องได้ เครื่องหมาย DNP ดังกล่าวจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องหมาย Cash Balance ที่ขึ้นไว้ชั่วคราวสิ้นสุดลงเช่นกัน
การปรับแผนครั้งนี้สะท้อนความใส่ใจของบริษัทต่อเสียงสะท้อนจากผู้ถือหุ้นกู้ทั้งรายย่อย นักลงทุนสถาบัน และกองทุน โดย EA ยืนยันว่าคำนึงถึงความร่วมมือระยะยาวเป็นสำคัญ
ข้อเสนอใหม่นี้ยังคงสิทธิประโยชน์หลักไว้ อาทิ:
การเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี
เงื่อนไข Call Option
แนวทางชำระคืนเงินต้นบางส่วนหากมีการจ่ายเงินปันผล (Dividend Covenant)
EA ยืนยันว่า แผนการเงินใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพของบริษัทในปัจจุบัน โดยในลำดับถัดไป บริษัทจะเข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือกับสถาบันการเงินและที่ปรึกษาเพื่อจัดทำแผนการชำระหนี้ที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง