นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนียังคงแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ หลังแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศได้คลี่คลายไปแล้วส่วนหนึ่ง ทำให้ตลาดหันกลับมาให้น้ำหนักกับภาพรวมการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าต่อ โดยวันนี้จะมีแรงหนุนบางส่วนจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นตามรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ Sentiment วันนี้ไม่แย่มาก
แนวโน้มในวันนี้ แนะติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเฉพาะการเจรจาของประเทศไทย ก่อนถึงเส้นตายเริ่มเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ในวันที่ 9 ก.ค.นี้
โดยให้กรอบแนวรับ 1,115 จุด และแนวต้าน 1,135 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (3 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,828.53 จุด เพิ่มขึ้น 344.11 จุด หรือ +0.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,279.35 จุด เพิ่มขึ้น 51.93 จุด หรือ +0.83% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,601.10 จุด เพิ่มขึ้น 207.97 จุด หรือ +1.02%
- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,796.75 จุด เพิ่มขึ้น 34.27 จุด หรือ +0.09% ดัชนีฮั่งเส็งฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 24,234.28 จุด เพิ่มขึ้น 12.87 จุด หรือ +0.05% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,456.15 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด หรือ +0.04%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ก.ค.) 1,127.21 จุด เพิ่มขึ้น 11.52 จุด (+1.03%) มูลค่าซื้อขาย 34,920.97 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (3 ก.ค.) 44.19 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (3 ก.ค.) ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 67.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ก.ค.) อยู่ที่ 5.10 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.44 อ่อนค่า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีกว่าคาด หนุนดอลลาร์แข็งค่า
- จับตา "ทีมไทยแลนด์" ประชุมหารือผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ค่ำวานนี้ เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย ลุ้นเจรจาภาษีต่ำกว่า 20% ด้าน "วรภัค" ประธานคณะที่ปรึกษา รมว.คลังมั่นใจไทยจะจบดีลแบบ win-win
- สหรัฐ-เวียดนามปิดดีลเจรจาการค้าสำเร็จ เก็บภาษีตอบโต้ 20% เวียดนามทุ่มสุดตัวตั้งภาษีสหรัฐ 0% "เอกชนไทย" ชี้ไทยยื่น 0% ไม่ได้เพราะต้องดูแลเกษตรกร ลุ้นอัตราภาษีต่ำกว่าเวียดนาม แนะทีมเจรจาชูจุดเด่นจริงใจ แก้ปัญหาสวมสิทธิ์สินค้าส่งออก ห่วงกรณีภาษีเท่ากันแต่ต้นทุนผลิตสินค้าไทยสูงกว่า 5-10% ชมรัฐบาลเวียดนามทำงานเร็ว ชี้ดีลเวียดนามหนุนดึงลงทุน
- "เงินบาท" ส่งสัญญาณ "แข็งค่า" ต่อเนื่อง แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ที่ 32.30 บาท หลังดอลลาร์ร่วง-เฟดจ่อหั่น ดอกเบี้ย KKP ชี้ระยะกลางถึงยาวเงินบาทควรกลับไป "อ่อนค่า" ไม่เช่นนั้นไทยจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน "ศูนย์วิจัยกสิกรไทย" เงินบาทแข็งตามแรงซื้อสุทธิ "พันธบัตรไทย" ของนักลงทุนต่างชาติ
- ครม.ชุดใหม่ มีมติมอบให้ "ภูมิธรรม" รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง "สุริยะ" รองนายกฯ เบอร์สอง ตามด้วย พีระพันธุ์ พิชัย และ ประเสริฐ ตามลำดับ โดยนายภูมิธรรมมีอำนาจเต็มเท่ากับนายกรัฐมนตรี อันดับ 2-5 จะสั่งการอนุมัติเงินงบฯ ต้องขอ ครม "มท.อ้วน" ขอใช้ความกล้าหาญสางปมที่ดินเขากระโดง-อัลไพน์ จ่อจัดทัพขุนพลมหาดไทยให้เหมาะสมกับงาน ตั้งเป้าปราบยาเสพติดเป็นอันดับแรก ส่อหมันเรือดำน้ำเหตุเปลี่ยน ครม.ต้องส่งเรื่องกลับกลาโหมโยน รมต.ใหม่พิจารณา
- ชูศักดิ์" เผยอาจเลื่อนหรือถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังมี ครม.ใหม่ เหตุอยากคุยให้ชัดก่อนเดินหน้า เผยสัปดาห์หน้าสภาฯ เตรียมพิจารณาร่างประชามติเป็นคิวแรก "พรรคร่วมฝ่ายค้าน" ได้ข้อสรุป 4 ประเด็นหลัก ปลดล็อกประเทศ ย้ำ "รัฐบาล" ต้องถอนร่างเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ "เท้ง" แจง ปชน. เสนอ "นายกฯ ชั่วคราว" ไม่ได้เสนอว่าจะร่วมโหวต หรือไม่ร่วมโหวตให้ใคร แต่ต้องมีเงื่อนไขยุบสภาฯ-แก้ รธน. ยืนยัน "ฝ่ายค้าน" ไม่ทำประเทศถึงทางตัน
- ธนาคารโลก" หั่นจีดีพีไทย ปี 68 เหลือ 1.8% เหตุนโยบายการค้าโลก ป่วนส่งออก-บริโภค-ท่องเที่ยวชะลอตัว คลังจ่อปรับตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ นำปัจจัย "การเมือง-เจรจาภาษีทรัมป์" ร่วมพิจารณา "จตุพร" เกาะติดผลเจรจาภาษีสหรัฐ หลังเวียดนามได้ดีล 20% ลุยแก้ปัญหาสินค้าราคาตกต่ำ
- NETBAY (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 24.65 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 71 ลบ. (+49%YoY , +12%QoQ) ตามรายได้การดำเนินงานสูงขึ้น +41%YoY มีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการรับรู้รายได้งานโครงการพัฒนาระบบ Digital Zoo และโครงการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มกลางการจัดเก็บฐานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ช่วงถัดไปคาดยังอยู่ในเกณฑ์ดีต่อจาก Fynnet Ventures (ให้บริการ Compliance Solution ผ่านแพลตฟอร์ม CHECK+) และ Ai-Box ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ NETBAY* จะอยู่ที่ 247 ลบ.(+14%YoY) และ 272 ลบ.(+10%YoY) ตามลำดับ
- BDMS (พาย) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท คาดการณ์รายได้ปี 2568 เติบโตในอัตราลดลง (-2%) โดยในไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิ 4.3 พันล้านบาท (+7%YoY) ทรงตัวจากไตรมาสก่อน หนุนจาก 1)รายได้รับรู้จากโรงพยาบาลและเตียงผู่ป่วยใหม่ และ 2)การเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มตะวันออกกลาง (+22%YoY) และ CLMV (+11%YoY) ขณะที่ในไตรมาส 2/68 เรามองว่าจะเติบโต YoY แม้อ่อนตัว QoQ จาก 1)ปัจจัยฤดุกาล และ 2)จำนวนผู้ป่วยต่างชาติชะลอตัวในเดือนเมษายน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบระยะสั้นจากเหตุแผ่นดินไหว ทั้งนี้ คาดสามารถชดเชยจากการฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคม (+6%YoY)
- PTTGC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 23.10 บาท มองเชิงบวกเป็น global-play ปัจจัยหนุนทั้งในระยะสั้น-กลาง-ยาว ปัจจัยระยะสั้นคือค่าการกลั่น (GRM) ฟื้นในไตรมาส 2/68 จาก USD3.4/bbl ในไตรมาส 1/68 มาที่ USD 5.0/bbl อุปสงค์ตามฤดูกาลหนุน และต้นทุนโอเลฟินลดลง ได้ประโยชน์จากการใช้ ethane เพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/68 จาก 33% ในไตรมาส 4/67 เป็น 38% นอกจากนี้ spread โพลิเมอร์ยังดีขึ้นตามราคานาฟทาลดลง ปัจจัยระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพ (Performance Enhancement Strategy) มุ่งเน้นการประหยัดต้นทุน (OPEX saving) และการบริหารแบบองค์รวม (holistic optimization) ซึ่งคาดว่าจะประหยัดต้นทุนรวมได้