เจรจาภาษีสหรัฐไม่จบฉุด SET สกัดชิปเขย่าหุ้น 5 กลุ่มสายเทค-โรงไฟฟ้า

ข่าวเทคโนโลยี Saturday July 5, 2025 16:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เจรจาภาษีสหรัฐไม่จบฉุด SET สกัดชิปเขย่าหุ้น 5 กลุ่มสายเทค-โรงไฟฟ้า

บล.บัวหลวง วิเคราะห์กรณีประธานาธิบดีสหรัฐ "โดนัลด์ ทรัมป์" เตรียมจำกัดการส่งออกชิป AI ไปมาเลเซีย และไทย ว่าจะมีผลกระทบต่อหุ้นใน 5 กลุ่มหลัก ดังนี้

1. กลุ่มนำเข้า GPU กลุ่มที่คาดกระทบตรงอย่าง Siam Al ซึ่งเป็น NVIDIA Cloud Partner (NPC) ประเทศไทย และอาจจะต่อเนื่องไปที่ LTS ซึ่ง รับงานต่อจาก Siam Al

2. กลุ่ม Data center และ โรงไฟฟ้า จะกระทบแผนการลงทุน และแผนการเช่า Co-location แต่ในประเทศไทย คาด Data center ส่วนใหญ่ยังเป็น CPU ไม่ใช่ GPU สำหรับ AI อาจจะกระทบจำกัด อีกทั้ง US อาจจะมีข้อยกเว้นบางอย่างให้กับบริษัทที่มี HQ อยู่ใน US และ Friendly nations ได้ชั่วคราว อาจจะไม่กระทบกับแผน ของ Hyperscalers

เจรจาภาษีสหรัฐไม่จบฉุด SET สกัดชิปเขย่าหุ้น 5 กลุ่มสายเทค-โรงไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม แผนระยะยาวอาจจะกระทบการพัฒนา AI Cluster ในประเทศไทย และเสียโอกาสเม็ดเงินการลงทุนในด้านนี้ และอาจส่งผลถึงอุปสงค์ของโรงไฟฟ้าบางส่วนในระยะยาว

3. กลุ่มพัฒนา AI กลุ่มที่พัฒนา AI ของตัวเองในประเทศ อาจจะมีต้นทุนที่สูงขึ้น เพราะต้องใช้ channel อ้อม หรือย้าย workload ไป region อื่น เช่น Singapore

4. กลุ่ม Electronics คาดกระทบจำกัดโดย HANA, CCET, KCE ไม่ได้มีสินค้าเกี่ยวเนื่องกับ AI อยู่แล้ว ในด้านของ DELTA ไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการขายสินค้ากลุ่ม Power management ในภูมิภาคอยู่แล้ว แต่ขายใน Global scale การจำกัดในภูมิภาค

จึงคาดไม่กระทบ แต่อาจจะกระทบทางอ้อมในด้านของ Supply chain เนื่องจากมาเลเซียเป็นฐานสำคัญในการทำ Packaging/Testing

อย่างไรก็ตาม จากที่กล่าวก่อนหน้า US อาจมีข้อยกเว้น เพื่อลดผลกระทบความเสี่ยงด้าน Supply chain shock

5. กลุ่ม Bitcoin mining การทำ Mining ขนาดใหญ่ (Industrial Scale) พึ่งพา GPU หรือ ASIC ซึ่งบางส่วนมาจาก Nvidia หากมาตรการรวมถึง GPU สำหรับ High Compute อาจทำให้ Mining Farms จัดหาชิปได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบอาจจำกัด เพราะ Mining Hardware หลายชนิดไม่ใช่ AI-specific GPU โดยตรง

นอกจากนี้ การเจรจาภาษีระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่ยังไม่มีความคืบหน้านั้น มองว่าจะกด Downside Risk ตลาดดังนี้

  • มุมมองปัจจัยพื้นฐาน

อิงจากการประเมิน scenarios ของ Wealth Research ตาม Bear-case (แย่สุด) หาก Tariff อยู่ที่ 36% (จาก Base-case ที่

20%) จะกดดันให้

- GDP ไทยเหลือโต 0.9% (จาก Base-case 1.4%)

- SET EPS เหลือ 73 บาท

- Downside ดัชนีโซนลึกอยู่ช่วง 980-1,030 (อิง PER ที่ราว 13.4-14.2x หรือ -1.25SD ถึง -1SD) หรือมีโอกาสลงไปทดสอบ Low เดิม

  • มุมมองทางเทคนิค

การปรับฐาน จึงน่าจะอยู่ในช่วง 1,050/1,060 ในระหว่างสัปดาห์

  • มุมมองทางกลยุทธ์

คาดหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น อิเล็กทรอนิกส์, เกษตรฯ และการลงทุน เช่น นิคมฯ โดนกดดันตรง

- กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รอเทียบภาษีกับคู่แข่งกลับ อย่างจีน ไต้หวัน และมาเลเซีย แต่หุ้นดันเล่นขึ้นมาเก็งก่อน อาจจะเจอแรงขาย

- กลุ่มนิคมฯ กระทบการตัดสินใจระยะสั้น คู่แข่งอย่างเวียดนามเปิดเลขมาก่อนแล้ว ต้องลุ้นหน่อย

- กลุ่มเกษตรฯ มีความเสี่ยงอาจจะถูกกดดันให้นำเข้าเนื้อหมูเพิ่มเติม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ