
SET ปิดวันนี้ที่ 1,121.13 จุด เพิ่มขึ้น 10.73 จุด (+0.97%) มูลค่าซื้อขาย 32,367.57 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเด้งขึ้นตามภูมิภาคหลังหยุดทำการเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่มีปัจจัยบวกมากนัก ท่ามกลางแรงกดดันมาตรการภาษีสหรัฐฯ แนวโน้มสัปดาห์หน้าแนะติดตามสถานการณ์การเจรจาการค้าเป็นหลัก เก็ง"ทรัมป์"แจ้งสถานะคู่ค้าเพิ่มเติม ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงนี้อาจไม่มีน้ำหนักมากนัก แต่ก็ยังต้องจับตาเศรษฐกิจจีน พร้อมให้แนวต้าน 1,155 จุด แนวรับ 1,105 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ 1,121.13 จุด เพิ่มขึ้น 10.73 จุด (+0.97%) มูลค่าซื้อขาย 32,367 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นเช้านี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงเช้าแต่บ่ายลดช่วงบวกลง โดยทำระดับสูงสุด 1,130.28 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือน ส่วนระดับต่ำสุดอยู่ที่ 1,115.47 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 329 หลักทรัพย์ ลดลง 110 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 198 หลักทรัพย์
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นตามภูมิภาคหลังหยุดทำการไปเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนมากนัก ท่ามกลางแรงกดดันจากมาตรการภาษีสหรัฐฯที่ยังปกคลุมอยู่ และเป็นปัจจัยที่มีความอ่อนไหวต่อตลาดอย่างมาก
แนวโน้มสัปดาห์หน้า แนะติดตามสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าเป็นหลัก คาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะเปิดเผยรายละเอียดความคืบหน้าสถานะการค้าของประเทศคู่ค้าอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ตลาด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงนี้อาจไม่มีน้ำหนักต่อดัชนีมากนัก แต่ก็ยังต้องจับตาตัวเศรษฐกิจของจีนต่อไป
โดยให้แนวต้าน 1,155 จุด และแนวรับ 1,105 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KTC มูลค่าการซื้อขาย 1,978.42 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,869.62 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,472.85 ล้านบาท ปิดที่ 108.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,381.92 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,381.44 ล้านบาท ปิดที่ 44.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง