นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง [CIVIL] เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก โดยบริษัทเตรียมส่งมอบงาน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการท่าอากาศยาน จังหวัดกระบี่ โครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3 ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก และโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว รวมถึงทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือได้ตามแผนที่วางไว้
ขณะเดียวกัน บริษัทมีโครงการที่ลงนามสัญญาแล้ว 1 โครงการ และอยู่ระหว่างรอลงนามสัญญา 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท อาทิ งานก่อสร้างถนน และงานระบายน้ำ อีกทั้ง เตรียมพร้อมยื่นประมูลงานโครงการขนาดใหญ่เพิ่ม ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้าง ทั้งงานโครงสร้างพื้นฐาน โครงการรถไฟความเร็วสูง งานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ เป้าหมายเพิ่มงานในมือ (Backlog) ให้ได้ตามเป้าหมาย 6,000 ล้านบาทในปีนี้
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่าจะมีงานโครงการใหม่ของภาครัฐทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง จากการเร่งอนุมัติงบประมาณรายจ่าย การเร่งรัดโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเตรียมความพร้อมของงบประมาณปี 2569 ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ
อย่างไรก็ตาม สภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมก่อสร้าง ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป โดยเฉพาะความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงงาน และแนวโน้มด้านนโยบายภาษี ซึ่งล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนการบริหารจัดการต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
"ปี 2568 ถือเป็นปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการบริหารความต่อเนื่องของโครงการท่ามกลางสภาวะที่ผันผวน อย่างไรก็ตาม บริษัทมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งในทุกมิติ โดยยึดกลยุทธ์ FAST ทั้งการบริหารโครงการอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย รักษากระแสเงินสด ฐานะการเงิน และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมส่งมอบผลงานตามกรอบเวลาที่กำหนด สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาเสถียรภาพ และดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์" นายปิยะดิษฐ์ กล่าว