"เมอร์เคิล" ชี้สภาพคล่องล้นโลกดันคริปโทพุ่งไม่หยุด! จับตา Ethereum ดาวเด่นตัวต่อไป

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 15, 2025 17:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนลภย์ ปรีดามาโนช Fund Manager บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า สภาพคล่องทางการเงินที่ยังคงอยู่ในระดับสูงทั่วโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโทเคอร์เรนซีปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคา Bitcoin ที่พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) ที่ 123,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์คลี่คลายลง และเงินทุนไหลกลับเข้ามาลงทุนอย่างคึกคัก

"Liquidity ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีผลต่อการลงทุน ซึ่งราคาสินทรัพย์ดิจิทัล จะ Lack 2-3 เดือน หลังการที่มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ โดยที่ครึ่งปีแรกก็ได้ทางฝั่งยุโรป และจีน อัดฉีดเงินเข้ามา และครึ่งปีหลังก็คาดว่าจะมาจากฝั่งอเมริการที่จะมีการลดดอกเบี้ยลงอีก เป็นปัจจัยที่หนุนต่อแนวโน้มของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลในครึ่งปีหลังที่ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ และรอบนี้ราคาบิทคอบน์ก็มาทำ All time high ไตรมาส 3 พอดี หลังจากที่มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบของยุโรป และจีนในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้า และก็ไม่ใช่เป็นช่วงของ Harvest Period" นายธนลภย์ กล่าว

ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมอนุมัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐที่ทยอยออกมาเป็นปัจจัยที่หนุนต่อทิศทางราคาสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโทเคอร์เรนซี่ โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Stable Coins ที่จะเป็นปัจจัยที่เข้ามาหนุนราคาคริปโทเคอร์เรนซี่ที่เกี่ยวข้องกับ Stable Coins โดยเฉพาะ Ethereum ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งคริปโทเคอร์เรนซี่ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นได้ หลังจากที่พักตัวมาค่อนข้างนาน

นอกจากนี้การที่มีกองทุนต่างๆเริ่มมีการมองหาสินทรัพย์ดิจิทัลทางเลือกอื่นๆนอกเหนือจากบิทคอยน์ ในการเปิดกลยุทธ์การลงทุนใหม่ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะเข้ามาหนุนทิศทางของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโทเคอร์เรนซี่ให้ปรับเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งในสหรัฐตอนนี้จะมี 2 กองทุนขนาดใหญ่เตรียมเปิดกลยุทธ์การลงทุนใน Ethereum อย่างไรก็ตาม หากมีกองทุนต่างๆเข้ามามากขึ้น ก็ต้องระมัดระวังภาวะฟองสบู่ แต่คาดว่าจะยังใช้ระยะเวลาอีกค่อนข้างนานกว่าเห็นสัญญาณชัดเจน

เมอร์เคิล แคปปิตอล แนะนำการจัดพอร์ตลงทุนโดยมีสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโทเคอร์เรนซี่เข้ามาอยู่ในพอร์ตสัดส่วนราว 1-5% เป็นการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ต่อเนื่อง แต่ต้องเป็นนักลงทุนที่สามารถยอมรับความผันผวน และความเสี่ยงสูงได้ โดยมองว่ามีความคุ้มค่ากับความเสี่ยงและความผันผวนที่สูง และสามารถบ่งสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกับตราสารหนี้มาทยอยลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโทเคอร์เรนซี่เพิ่มเติมจากสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ