นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งออกข้าง ภาพรวมยังไม่มีปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ โดยน้ำหนักจะยังอยู่ที่การเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุด ทีมไทยแลนด์กำลังเตรียมหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการอีกครั้ง จึงต้องรอดูความคืบหน้าและเงื่อนไขข้อสรุปในท้ายที่สุด และคาดว่าตลาดจะเก็งกำไรหุ้นของบจ.ที่มีผลประกอบการดีในไตรมาส 2/68 ทำให้ดัชนีอาจมีความผันผวนในช่วงนี้
แนวโน้มวันนี้ให้ติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าต่อไป รวมถึงรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. และรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ พร้อมกับติดตามงาน "ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก" ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะแสดงในมุมมองด้านเศรษฐกิจ
โดยให้กรอบแนวรับ 1,150 จุด และแนวต้าน 1,165 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,254.78 จุด เพิ่มขึ้น 231.49 จุด หรือ +0.53%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,263.70 จุด เพิ่มขึ้น 19.94 จุด หรือ +0.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,730.49 จุด เพิ่มขึ้น 52.69 จุด หรือ +0.25%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,492.02 จุด ลดลง 171.38 จุด หรือ -0.43%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,500.37 จุด ลดลง 3.41 จุด หรือ -0.09% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 24,547.08 จุด เพิ่มขึ้น 29.32 จุด หรือ +0.12%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ก.ค.) 1,157.63 จุด ลดลง 3.38 จุด (-0.29%) มูลค่าซื้อขาย 42,928.06 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (16 ก.ค.) ขายสุทธิ 472.54 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (16 ก.ค.) ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 66.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ก.ค.) อยู่ที่ 4.23 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.48 แนวโน้มผันผวน ตามทิศทางดอลลาร์-ราคาทอง-นโยบายการค้า-การเมืองในปท.
- จับตา กกพ.เคาะเกณฑ์กำหนดค่าไฟงวดปลายปี 17 ก.ค.นี้ "ปลัดพลังงาน" มั่นใจจะดูแลให้เหมาะสมตามนโยบายรัฐบาลที่ไม่เกิน 3.99 บาท/หน่วย
- ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 87.7 หวั่นถูกกดดันลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 0% วอนเร่งเจรจาก่อน 1 ส.ค.นี้
- "แบงก์ชาติ" ขอรอผลเจรจาภาษีทรัมป์ ก่อนประเมินเศรษฐกิจไทย แนะภาคธุรกิจฉวยโอกาสปรับตัวเพิ่มศักยภาพแข่งขัน ชงทบทวนเพดานค้ำประกันสินเชื่อ เปิดช่องเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน ห่วงสินค้าทะลักกระทบเอสเอ็มอีอ่วม
- คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ได้ออกมาตรการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย รองรับโลกยุคใหม่ รวม 5 มาตรการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน และเสริมสร้าง ซัพพลายเชนในประเทศให้แข็งแกร่ง และลดความเสี่ยงจากมาตรการการค้าของสหรัฐ และจัดระเบียบลงทุนในบางสาขา ปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ และรักษาสมดุลการแข่งขันทางธุรกิจให้เหมาะสม
- 2 ชาติอาเซียนสรุปดีลสหรัฐ "อินโดฯ" โดนภาษี 19% ต่ำกว่าเวียดนาม กดดันทีมเจรจาของไทย "ซีไอเอ็มบี" ชี้ เสี่ยงตกขบวนเอฟดีไอ นักลงทุนหนี้ซบเวียดนามและอินโดฯ สรท.หวังไทยปิดดีล ภาษีทรัมป์ 18% ส.อ.ท.กังวลถูกบีบยอมลดภาษี 0% "พาณิชย์" เผยไทยเจรจาทางการรอบ 2 กับยูเอสทีอาร์ ยื่นข้อเสนอเพิ่มรายการภาษี 0% ให้สหรัฐ ธปท.แนะเตรียมมาตรการเยียวยา
- สืบพยานจบแล้ว ศาลนัดตัดสิน คดี "ทักษิณ" หมิ่นสถาบันกรณีจ้อสื่อนอกที่เกาหลี ในวันที่ 22 สิงหาคม
*หุ้นเด่นวันนี้
- KAMART (กสิกรไทย) ราคาเป้าหมาย 9.24 บาท จากยอดขายและ GPM ที่การเติบโตที่สูงขึ้น แต่ลดลง 6% QoQ จากค่าใช้จ่าย ประสิทธิภาพด้าน SG&A ที่เพิ่มขึ้น คิดเป็น 48% ของประมาณเงินทุนดีขึ้นมากการทั้งปี และมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มการเติบโต จากการใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพในการเข้าซื้อกิจการ 4U2 และแนวทางเชิงรุกที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มรายได้และกำไรที่ยืดหยุ่นในช่วง 2H68
- MONO (ลิเบอเรเตอร์) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 2.69 บาท ค่าบริการรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเอฟเอคัพ ในราคาเพียง 299 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าถูกกว่าที่ตลาดคาด เป็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อโอกาสที่จะได้จำนวนสมาชิกที่สูง โดยคาดเป้าที่ 3 ล้านคน ซึ่ง MONO จะได้ส่วนแบ่งค่าถ่ายทอด 50 บาทต่อสมาชิกต่อเดือน หนุนโอกาสการ
- TOP (กรุงศรี) ราคาเป้าหมาย 33 บาท มอง slightly negative ต่อแนวโน้ม 2Q25F แม้กำไรสุทธิโตได้ q-q เพราะมีรายการพิเศษหนุนแต่ส่วนใหญ่เป็น non-cash หาก ตัดออก จะมีขาดทุนปกติ -1,546 ลบ. แย่ลง y-y q-q ฉุดจาก net