(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัว ขาดปัจจัยใหม่

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ คาดดัชนีแกว่งตัวออกข้าง โดยภาพรวมไม่ได้มีประเด็นใหม่ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีปรับตัวขึ้นแรง แต่เมื่อวานดัชนีเริ่มแกว่งทรงตัว ภาพรวมดัชนีน่าจะแกว่งสร้างฐาน ยืนเหนือ 1,200 จุด เพื่อรอความชัดเจนการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐว่าจะปรับลงมาได้มากน้อยเท่าไร

รวมทั้ง ติดตามการแต่งตั้งผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หากมีการนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ หลังเลื่อนมาจากสัปดาห์ก่อน ซึ่งอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แต่อาจไม่มากเท่าสัปดาห์ที่แล้ว และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/68 หลังกลุ่มธนาคารประกาศออกมาครบ ซึ่งผลประกอบการค่อนไปทางที่ดี

โดยให้กรอบแนวรับ 1,200 จุด และแนวต้าน 1,218 - 1,220 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,323.07 จุด ลดลง 19.12 จุด หรือ -0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,305.60 จุด เพิ่มขึ้น 8.81 จุด หรือ +0.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,974.17 จุด เพิ่มขึ้น 78.52 จุด หรือ +0.38%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,864.63 จุด เพิ่มขึ้น 45.52 จุด หรือ +0.11%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,561.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.84 จุด หรือ +0.05% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,024.93 จุด เพิ่มขึ้น 30.79 จุด หรือ +0.12%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ก.ค.) 1,208.13 จุด เพิ่มขึ้น 1.55 จุด (+0.13%) มูลค่าซื้อขาย 43,213 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (21 ก.ค.) ขายสุทธิ 1,116.37 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (21 ก.ค.) ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 67.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ก.ค.) อยู่ที่ 4.01 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.23 แนวโน้มแข็งค่า คาดกรอบวันนี้ 32.15-32.35

- จับตา ครม.เคาะชื่อผู้ว่า ธปท.วันนี้ "วิทัย" จ่อผ่านด่าน หลังเอกสารครบ เผย 3 แนวทางแก้เศรษฐกิจ สร้างการเติบโต เพิ่มรายได้ ลดดอกเบี้ย พร้อมเสริมความรู้ทางการเงินให้ประชาชนรู้จักการออมมากขึ้น

- "ไทย" ลุ้น "สหรัฐ" ตอบกลับ ลดภาษีจาก 36% หลังยื่นข้อเสนอรอบ 2 ให้ USTR "คลัง" ชี้ยังไม่กำหนดเจรจารอบใหม่ ยันไทย ไม่เปิด 0% ทุกรายการ ไม่อย่างนั้นต้องลดให้ประเทศที่ไทยมีข้อตกลงการค้า ห่วงสินค้าทะลักไทย "วิจัยกรุงศรี" เตือนไทยเจอภาวะไหลบ่าแฝดสินค้าสหรัฐ-จีน ไหลท่วมตลาด "พาณิชย์" โรดโชว์สหรัฐ ย้ำไทยผู้ผลิตสำคัญในซัพพลายเชนภูมิภาค หนุนส่งออกสหรัฐ

- นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์

ในการประชุมทบทวนแบบบูรณาการเกี่ยวกับกรอบเงินกองทุนสำหรับธนาคารขนาดใหญ่ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันนี้ เวลา 08.30 น. ตาม

เวลาสหรัฐ หรือ 19.30 น. ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 29-30 ก.ค.

- "สรวงศ์" เตรียมถกเป้าหมายการท่องเที่ยวปี 69 หลัง ททท.เสนอสร้างรายได้รวม 2.8 ล้านล้านบาท เพิ่ม 5% จากปีนี้ จับตา "ปัจจัยเสี่ยง" ที่อาจเจอระหว่างทางเหมือน ปี 68 พร้อมพลิกโฉมท่องเที่ยวไทยก้าวสู่ "The New Thailand"

- "สุริยะ" เผย "สุวรรณภูมิ" อันดับ 1 "สนามบินที่มีสายการบินให้บริการมากสุดในโลก" จากผลสำรวจของ Brilliant Maps สั่งลุยพัฒนาศักยภาพ "สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง" รับอุตสาหกรรมการบินโต ส่วนกรมขนส่งทางราง จ่อชงแผนแม่บทรถไฟฟ้า M-MAP2 รวม 19 โครงการ ให้ ครม.เคาะลงทุนกว่า 5.8 แสนล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

- OSP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 24 บาท เบื้องต้นประเมินกำไรปกติไตรมาส 2/68 ลุ้นทรงตัว q-q ที่ระดับราว 970 ลบ. +5% y-y หนุนจากรายได้ที่ยังเติบโต ขณะที่ Margin ยังดีขึ้นจากปีก่อนจากต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่ลดลง

ด้านส่วนแบ่งตลาดเชิงปริมาณล่าสุดเดือน มิ.ย. OSP ยังทรงตัว m-m ที่ 30.1% ได้ส่วนมูลค่าตลาดเครื่องดื่นชูกำลัง +3% y-y ภาพรวมหากกำไรไตรมาส 2/68 ตามคาดจะทำให้ 1H25 คิดเป็น 60-65% ของประมาณการทั้งปีที่ 3 พันลบ. สะท้อนว่าประมาณการอาจมี Upside

- AURA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 20.10 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ AURA จากราคาทองคำที่อยู่ในระดับสูง สนับสนุน Volume สูงขึ้นในช่วงทองขาขึ้น โดยกำไรที่ดีขึ้นมาจากฝั่งขารับซื้อทอง รวมไปถึงเราคาดธุรกิจทองมาเงินไปจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน โดยเรามองการเติบโตของสินเชื่อทองมาเงินไปจะขึ้นไปถึง 5.1 พันล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 4.5%QoQ โดย AURA มีสาขาเพิ่มเป็น 508 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 1/68 เราคาดการณ์ปีนี้จะเป็นปีทองต่อเนื่องของ AURA โดยมีเป้าหมายการเติบโตที่ระดับ 20-30% จากการขยายสาขา 156 สาขา ในปี 2568 และตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อมาอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท เราคาดการณ์ AURA จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องไปยังปี 2570

- TASCO (เมย์แบงก์) "ซื้อ" เป้าหมายเขิงกลยุทธ์ 18.40 บาท โดยคาดการเติบโตหลัก มาจากงบประมาณก่อสร้างถนนของภาครัฐที่เติบโต 14%/8%YoY ในปี 68/69 ในขณะที่ Spread Bitumen ในต่างประเทศปรับตัวขึ้นเป็น +5US$/Ton เทียบกับ 1H68 ที่ -40US$/Ton สะท้อนอุปสงค์ที่แข็งแกร่งผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ TASCO ปัจจุบันถูกซื้อขาย PE ปี 69 ที่ 10 เท่า (-1.6SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ในขณะที่อัตราเงินปันผลอยู่ในระดับ 7-8% อีกทั้งยังมี upside จากการปรับขึ้น Payout ratio จาก 80% เป็น 100% หนุนให้เงินอัตราปันผลเพิ่มเป็น 9-10% ช่วยจำกัด Downside