PTTGC ตอกย้ำความสำเร็จปั้นโรงกลั่นชีวภาพผลิต SAF เล็งต่อยอดเฟส 2 สู่กำลังผลิต 24 ล้านลิตร/ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 24, 2025 18:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล [PTTGC] เดินหน้าโครงการโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery) ครบวงจรที่เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ

นายทศพร บุณยพิพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ PTTGC เปิดเผยว่า โครงการ Biorefinery แห่งนี้มีความโดดเด่นในการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 6 ล้านลิตรต่อปี หรือสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงอย่าง Bio-polymers/chemicals ได้ถึง 20,000 ตันต่อปี ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด

บริษัทพลิกโฉม "น้ำมันพืชใช้แล้ว" สู่พลังงานสะอาด ลดคาร์บอน 80% โดยหัวใจสำคัญของโครงการนี้คือการใช้ "น้ำมันพืชใช้แล้ว" (Used Cooking Oil: UCO) จากในประเทศ ผสมกับน้ำมันดิบในกระบวนการผลิตแบบ Co-processing ที่มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาน้ำมันใช้แล้วเหลือทิ้งแล้ว ยังสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 80% เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทั่วไป ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISCC CORSIA และ ISCC PLUS ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ PTTGC สู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2593

นอกจาก SAF แล้ว โรงกลั่นชีวภาพแห่งนี้ยังสามารถแปรรูปน้ำมันพืชใช้แล้วเป็นผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพ (Bio-Chemicals) และพลาสติกชีวภาพ (Bio-Polymers) อีกกว่า 10 ชนิด เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมที่มองหาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น Bio-Propylene สำหรับบรรจุภัณฑ์และชิ้นส่วนยานยนต์, Bio-BD สำหรับยางรถยนต์และรองเท้ากีฬา, และ Bio-PTA สำหรับเส้นใยโพลีเอสเตอร์และขวดพลาสติก PET ซึ่งปัจจุบันมีมาร์จิ้นที่ดีกว่า SAF ที่ยังอยู่ระหว่างรอการบังคับใช้ในระดับสากล

PTTGC ยังได้ขยายโครงการ "Community Waste Hub" ร่วมกับชุมชนเพื่อรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้วจากครัวเรือนและโรงงานอุตสาหกรรม โดยนำร่องแล้วในพื้นที่ระยอง และมีแผนขยายเพิ่มอีก 10 แห่งทั่วประเทศ โครงการนี้ไม่เพียงสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน แต่ยังสร้างรายได้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการรักษาสิ่งแวดล้อม

อนาคตที่สดใส: เตรียมขยายกำลังผลิต SAF ตอบรับดีมานด์โลก แม้ปัจจุบันการใช้ SAF ยังเป็นภาคสมัครใจ แต่ PTTGC เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดจากแรงผลักดันของกฎหมายและมาตรการสนับสนุนพลังงานทดแทนจากนานาประเทศ จึงมีแผนลงทุนในเฟส 2 เพื่อขยายกำลังการผลิต SAF เพิ่มเป็น 24 ล้านลิตรต่อปี หรือ Bio-polymers/chemicals 80,000 ตันต่อปี โดยเตรียมพิจารณานำเข้าน้ำมันใช้แล้วจากต่างประเทศเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต

การเดินหน้าโครงการโรงกลั่นชีวภาพครบวงจรของ PTTGC ไม่เพียงเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีสู่ความยั่งยืน แต่ยังช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินให้ก้าวสู่ยุคพลังงานสะอาด และเป็นส่วนหนึ่งของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับโลกอย่างแท้จริง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ