
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ [WP] เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการรับรู้รายได้ในการลงทุนธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ มีการเซ็นสัญญาลูกค้าเพิ่มอีก 4 เมกะวัตต์ จากเดิมที่มีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วจำนวน 11 เมกะวัตต์ ซึ่งภายในปี 2568 ตั้งเป้าเซ็นสัญญาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปรวมทั้งหมด 5 เมกกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว
รวมถึงบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญได้เดินหน้าขยายจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนทั่วประเทศให้ครอบคลุมถึง 177 แห่ง ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพในการควบคุมต้นทุนด้านการขนส่ง พร้อมทั้งเพิ่มความครอบคลุมในการกระจายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคในทุกพื้น
ในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายยอดขายก๊าซ LPG ให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 836,228 ตัน พร้อมกันนี้ยังได้จัดสรรงบประมาณการลงทุนจำนวน 300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาและขยายจุดกระจายสินค้าครัวเรือนให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นทั่วประเทศ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก (Green Energy) นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับธุรกิจหลัก เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ (New S-Curve) ที่จะเสริมสร้างรายได้และความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทฯ อย่างมั่นคงในระยะยาว
"บริษัทฯ เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกตามแผนที่วางไว้ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการลงทุนในธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ประจำให้แก่บริษัทฯ ในระยะยาว ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการต้นทุนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยฐานทุนที่มั่นคง แข็งแกร่ง ส่งผลให้สามารถขับเคลื่อนผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน" นางสาวชมกมล กล่าวในที่สุด
ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการ "WP Solar for Good" พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) รวมกำลังการผลิต 2,060 กิโลวัตต์ ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญการพัฒนาสังคมไทย อย่าง วัด โรงเรียน โรงพยาบาล และชุมชนรวมกว่า 200 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ภายในระยะเวลา 5 ปี และมอบก๊าซหุงต้มให้แก่สถาบันที่เข้าร่วมโครงการปีละ 50,000 กิโลกรัม เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่คนไทยอย่างยั่งยืน ตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืน "WE PROMISE" ของบริษัทฯ