นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู [BANPU] กล่าวว่า บริษัทรุดขับเคลื่อนกลยุทธ์ Energy Symphonics เดินหน้าธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน หรือ BESS (Battery Energy Storage System) ในพอร์ต Renewables+ เพื่อส่งต่อพลังงานเสถียรและสะอาด ที่สร้างกระแสเงินสด รองรับความต้องการพลังงานที่พุ่งสูงจากการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทำให้จำนวนศูนย์ข้อมูล (Data Center) ทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนบทบาท "ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย" ที่ไม่เพียงมุ่งลดคาร์บอนจากธุรกิจพลังงานบนเส้นทางสู่ Net Zero แต่มองเห็นโอกาสและจุดแข็งของพลังงานประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสีย ด้วยหลักความสมดุลและยั่งยืน
"บ้านปูเน้นการลงทุนในธุรกิจที่สนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 โดยเฉพาะระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) ซึ่งกำลังกลายเป็น Gamechanger (ตัวแปรสำคัญ) ที่หลายประเทศนำมาใช้รองรับธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและสร้างความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้า ต่อยอดด้วยการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาบริหารจัดการพลังงาน ทั้งการกักเก็บและจ่ายไฟให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เราจึงขยายการลงทุนในแบตเตอรี่ฟาร์มในประเทศยุทธศาสตร์ เช่น ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ที่มีทั้งนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาดที่ชัดเจนและมีตลาดไฟฟ้าเสรีที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจ เราเชื่อมั่นว่านี่คือโอกาสสำคัญในการสร้างการเติบโต และเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว"ไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกิจ BESS จาก 2 ประเทศยุทธศาสตร์ของบ้านปูมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการพัฒนาโครงการระบบกักเก็บพลังงาน Kamigumi-Tokyo BESS ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Banpu Japan K.K. กับ Kamigumi Co., Ltd. บริษัทขนส่งและโลจิสติกส์สัญชาติญี่ปุ่น การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการ Tono BESS กำลังการผลิต 58 เมกะวัตต์ชั่วโมง ในจังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโครงการระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่แห่งแรกของบ้านปู เน็กซ์ และการลงนามในสัญญาร่วมพัฒนาโครงการระบบกักเก็บพลังงานวูรีน (Wooreen Energy Storage System: WESS) ในออสเตรเลีย โดยบริษัทย่อยของบ้านปู Banpu Energy Australia Pty Limited (BEN) กับ EnergyAustralia ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกไฟฟ้าชั้นนำในออสเตรเลีย