หุ้น TM พุ่ง 6.42% มาอยู่ที่ 1.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท เมื่อเวลา 10.04 น.โดยปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากที่เคยแกว่งตัวอยู่ในระดับ 0.71 บาทในช่วงต้นเดือน ก.ค.68 มาดีดขึ้นแรงตั้งแต่สัปดาหี์ที่แล้วจนทะลุผ่าน 1 บาทอย่างแข็งแกร่ง
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เทคโนเมดิคัล [TM] เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า นอกเหนือจากแนวโน้มกิจการที่ดีแล้ว ราคาหุ้นปรับขึ้นมาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง จากที่ก่อนหน้านี้หุ้นถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง
สำหรับทิศทางผลประกอบการปี 68 ยังไปได้ดี จากยอดขายที่ใปรับตัวสูงขึ้น และเงินบาทแข็งค่าช่วยหนุนอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะทำได้เข้าเป้าหมาย 750 ล้านบาท ขณะที่บริษัทยังเดินหน้ามองโอกาสขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท 9 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณาลงทุนธุรกิจการแพทย์ดิจิทัลร่วมกับพันธมิตร
ขณะที่แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 2/68 และ 3/68 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหลักมาจากความต้องอุปกรณ์ทางการแพทย์การประเภทใช้แล้วหมดไป (Consumables) ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสิ่งของที่จำเป็นและต้องซื้อซ้ำอยู่ตลอดเวลา ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระยะนี้ ทั้งปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดภาคเหนือ และบริเวณอื่น ๆ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้หลายโรงพยาบาลในพื้นที่สั่งซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมเข้ามาด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้น บริษัทยังได้แรงหนุนจากธุรกิจ Wellness Center หรือโครงการสถานบริการดูแลผู้สูงอายุ "THE PARENTS" คาดว่าปีนี้จะเติบโตได้ 60% ตามเป้าหมาย โดยจุดประสงค์หลัก ณ ตอนนี้คือต้องการสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักก่อน โดยจะมุ่งเน้นในการเป็นสถานพักฟื้นตัวที่ไว้วางใจสำหรับผู้ป่วยที่เพิ่งผ่านการผ่าตัด หรือมีโรคหลอดเลือดสมอง
"การเข้ามาพักฟื้นที่เดอะเพเร้นท์จะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการพักในโรงพยาบาลมาก ๆ ของเราคิดเป็นอาทิตย์ละ 2 หมื่น ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็ตกวันละ 2-3 หมื่นเลย ซึ่งเราก็สามารถให้บริการได้ไม่ต่างกัน" นางสุนทรี กล่าวนางสุนทรี กล่าวเสริมว่า โครงการ THE PARENTS ได้เปิดตัวมา 3 ปีแล้ว กำลังจะถึงจุดคุ้มทุนในปีที่ 4 หลังจากนั้น บริษัทจะมองโอกาสขยายโครงการให้มีโรงพยาบาลบำบัดฟื้นฟูทางกายภาพ รวมถึงใช้พื้นที่ที่เหลือของโครงการสร้างที่อยู่อาศัยให้ผู้สูงอายุที่สามารถดูแลตัวเองได้เข้ามาพักอาศัย เพื่อช่วยเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้บริการ
ส่วนนโยบายภาษีของรัฐบาลสหรัฐที่สร้างความกังวลให้กับหลายบริษัทจดทะเบียนในไทยนั้น นางสุนทรี กล่าวว่า TM ในฐานะที่นำเข้าสินค้าเป็นหลักไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ในทางกลับกัน TM เองจะได้รับประโยชน์จากการเจรจาภาษีของไทยกับสหรัฐฯ โดยตรง เนื่องจาก TM มีการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ พอสมควร
"ถ้าหากไทยต้องลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐให้เหลือ 0% จริง ๆ ก็จะเป็นผลดีให้กับบริษัท เหมือนเวียดนามหรืออินโดนีเซียที่เขาปรับให้เหลือ 0% ซึ่งเขารวมอุปกรณ์การแพทย์ไว้ด้วย ถ้าเราได้แบบเขา ก็จะทำให้บริษัทได้สินค้าที่ถูกลงไปอีก" นางสุนทรี กล่าว