"ณัฐกวิน" นั่งแท่นผู้บริหาร ONYXRM จ่อตั้ง REIT เสริมเกมรุกขยายพอร์ตโรงแรมสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 30, 2025 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด (ONYXRM) ภายใต้การบริหารของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) แต่งตั้งนายณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล เป็นผู้นำทัพขับเคลื่อนการบริหารพอร์ตโฟลิโอธุรกิจโรงแรมของกลุ่มให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมวางกลยุทธ์เชิงรุกในการบริหารทรัพย์สินภายใต้กองทรัสต์

นายณัฐกวิน ในฐานะกรรมการผู้จัดการ ONYXRM เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้บริหารจัดการกองทรัสต์เพื่อลงทุนในโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่มีศักยภาพภายใต้ "ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป" เพื่อขับเคลื่อนพอร์ตโฟลิโอโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ผ่านการจัดตั้งกองรีท สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว โดยมีวิสัยทัศน์ก้าวเป็นหนึ่งใน Hospitality REIT ชั้นนำ ด้วยการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดีและมีศักยภาพสูง เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุน (Investment Portfolio) ที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาวให้กับนักลงทุน ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG) เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่ยั่งยืน

การเข้ามาเป็นผู้บริหาร ONYXRM ในครั้งนี้ มาจากความเชื่อมั่นในการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรม เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลไกหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมั่นใจในศักยภาพที่แข็งแกร่งของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ในฐานะ Sponsor ของกองทรัสต์ และโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป

โดยตนได้นำประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กว่า 15 ปี พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการทรัพย์สิน Property Fund และ REIT ร่วม 10 กอง มูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท มาใช้ในการบริหารจัดการ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ในฐานะ Sponsor และผู้บริหารโรงแรม ถือเป็นบริษัทด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม Hospitality กว่า 50 ปี มีแบรนด์โรงแรมที่มีชื่อเสียงภายใต้การกำกับดูแล ได้แก่ อมารี (Amari), โอโซ่ (OZO), ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) ซึ่งแต่ละแบรนด์ล้วนมีจุดเด่นที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการเป็นอย่างดี และสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ปัจจุบันมีโครงการภายใต้การบริหารจัดการที่เปิดให้บริการแล้ว 42 โครงการ รวมกว่า 7,700 ห้องใน 7 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่า 75 แห่งภายในปี 2573 โดยมีเป้าหมายมุ่งเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารจัดการโรงแรมและที่พักที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป และผู้จัดการกองทรัสต์ ได้คัดเลือกทรัพย์สินคุณภาพสูง จำนวน 4 ทรัพย์สิน ใน 3 ทำเลยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต กับ 2 แบรนด์โรงแรมซึ่งเป็นที่รู้จัก เพื่อเตรียมจัดตั้งกองทรัสต์ ประกอบด้วย 1. โรงแรมอมารี กรุงเทพ (Amari Bangkok) ตั้งอยู่ใกล้แยกราชประสงค์ซึ่งเป็นย่านธุรกิจและท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯ 2. โรงแรมอมารี พัทยา (Amari Pattaya) 3. โรงแรมโอโซ่ พัทยา (OZO Pattaya) ซึ่งทั้งสองโครงการตั้งอยู่ใจกลางพัทยาเหนือ ติดริมโค้งอ่าวทะเล ใกล้ร้านอาหารและศูนย์การค้า จึงได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และ 4. โรงแรมโอโซ่ ภูเก็ต (OZO Phuket) ใกล้หาดกะตะเพียง 150 เมตร ห่างจากหาดกะรนเพียง 850 เมตร และห่างจากสนามบินภูเก็ตเพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งทั้ง 4 ทรัพย์สินล้วนมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยแข็งแกร่งมาโดยตลอด

ล่าสุด ONYXRM ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ออนิกซ์ (ONYX Leasehold Real Estate Investment Trust) หรือ ONYXRT แล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมี ONYXRM เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ โดยจะเข้าลงทุนครั้งแรกใน 4 ทรัพย์สินดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ได้รับความนิยม ภายใต้แบรนด์อมารี และโอโซ่ ที่อยู่ภายใต้การบริหารของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ซึ่ง ONYXRT มีการกระจายความเสี่ยงในหลากหลายมิติ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ ในสถานการณ์ที่ปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศมีความผันผวนสูง

"ผมมองว่าการลงทุนผ่านกองรีทถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพราะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก และมีผู้บริหารทรัพย์สินมืออาชีพคอยดูแลบริหารจัดการกองทรัสต์ ทำให้นักลงทุนไม่ต้องดำเนินการเอง ทั้งยังมีสภาพคล่องสูงจากการซื้อขายหน่วยทรัสต์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และกองรีทยังมีโอกาสเพิ่มสินทรัพย์เข้ามาในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์อีกด้วย" นายณัฐกวิน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ