นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงข้อสรุปอัตราภาษีสหรัฐฯ ที่ไทยถูกเรียกเก็บในอัตรา 19% ลดลงจากเดิม 36% ว่า ในมุมมอง ตลท.มองว่าเป็นข่าวดีที่มีความชัดเจนอัตราภาษีออกมา แต่ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมว่าบริษัทจดทะเบียน (บจ.) กลุ่มใดที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์หรือมีผลกระทบ
"ต้องขอบคุณทีมงานของรัฐบาลที่ผลักดันตัวเลขนี้ออกมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไทยไม่ได้เสียเปรียบแต่คงต้องดูในรายละเอียด แต่ว่าดูเบื้องต้นจากที่ประกาศออกมาเป็นตัวเลขที่เราไม่ได้เสียเปรียบต่อคู่แข่งทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้นก็มองเป็นข่าวดีสำหรับตลาดทุนของเรา"นายอัสสเดช กล่าวขณะที่เบื้องต้นผลกระทบเชิงลบต่อรายได้ของ บจ.ที่มีการส่งออกโดยตรงไปยังสหรัฐฯ คิดเป็น 2% หรือต่ำกว่า 2% ของรายได้รวมทั้งหมด บจ. ดังนั้นผลกระทบตั้งแต่เริ่มต้นไม่ได้รุนแรงโดยตรง แต่ยังต้องติดตามปัจจัยอื่น ๆ ว่า บจ.มีการส่งออกผ่านประเทศอื่นหรือไม่ และไทยนำเข้าเพื่อส่งออกต่อไปอย่างไรเพื่อประเมินสถานการณ์ให้ครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาพอสมควร ทำให้เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วนจากความกังวลการเติบโตของเศรษฐกิจไทย นายอัสสเดช กล่าวว่า ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจหลังมาตรการภาษีสหรัฐได้ข้อสรุปแล้ว ซึ่งตัวเลขอัตราภาษีที่ออกมาต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ จึงต้องรอดูว่านักวิเคราะห์ รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังอย่างไร อยากให้ติดตามบทวิเคราะห์ต่าง ๆ ต่อเนื่องจากนี้ไปก่อน
นอกจากนี้ นายอัสสเดช กล่าวถึงการเตรียมเข้าซื้อขายของ บมจ.การบินไทย [THAI] ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ได้ต้อนรับหุ้น THAI กลับเข้ามาซื้อขาย เท่าที่ติดตามผลประกอบการของ THAI มีความน่าสนใจจากการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงบริษัทครั้งใหญ่ในรอบนี้ ซึ่งหวังว่าการกลับเข้ามาซื้อขายของ THAI จะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยน่าสนใจมากขึ้น
ขณะที่ประเด็นแผนการจัดซื้อเครื่องบินจากสหรัฐฯ ที่เป็นหนึ่งในข้อเสนอการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ นั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียดโดยตรง แต่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อ THAI ในอนาคต ซึ่งต้องติดตามหลังจากที่ THAI กลับเข้ามาซื้อขาย ต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดผลกระทบให้นักลงทุนมากขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ