(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งพักฐาน ไร้ปัจจัยบวก จับตางบบจ.-ปัญหาชายแดนกัมพูชา-ตัวเลขศก.สหรัฐฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 4, 2025 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้น

ไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งตัวพักฐาน หลัง SET ไม่สามารถยืนในระดับ 1,230 จุดได้ จากที่ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ รวมทั้ง ปัจจัย
กดดันหุ้นทั่วโลก หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. สหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้เกิดความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ โดยหุ้นสหรัฐฯ ที่สามารถทำสถิติใหม่มาตลอดในช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรแล้ว

แนวโน้มในวันนี้ ให้ติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 ของบริษัทจดทะเบียนต่อไป รวมถึงให้ติดตามสถานการณ์

ชายแดนไทย-กัมพูชา การรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค. ในภูมิภาคต่าง ๆ และรอดูการทบทวนดัชนี
MSCI วันที่ 7 ส.ค. นี้

ให้กรอบแนวรับ 1,190 - 1,200 จุด แนวต้าน 1,230 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (1 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,588.58 จุด ลดลง 542.40 จุด หรือ -1.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,238.01 จุด ลดลง 101.38 จุด หรือ -1.60% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,650.13 จุด ลดลง 472.32 จุด หรือ -2.24%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดลบวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 40,118.81 จุด ลดลง 680.79 จุด หรือ -1.66%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 24,431.88 จุด ลดลง 75.93 จุด หรือ 0.31% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,547.16 จุด ลดลง 12.79 จุด หรือ -0.36%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ส.ค.) 1,218.33 จุด ลดลง 24.02 จุด (-1.93%) มูลค่าซื้อขาย 54,586.68 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (1 ส.ค.) 1,921.19 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (1 ส.ค.) ร่วงลง 1.93 ดอลลาร์ หรือ 2.79% ปิดที่ 67.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ส.ค.) อยู่ที่ 3.06 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.50/52 กลับมาแข็งค่าแข็งค่ารับดอลลาร์อ่อน หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐต่ำคาด

- บมจ.การบินไทย (THAI) ได้ออกจากแผนฟื้นฟูแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 2568 หลังเข้าแผนฟื้นฟูตั้งแต่ มิ.ย.2564 และจะกลับมาซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อีกครั้ง ในวันนี้ (4 ส.ค.2568) ซึ่งเป็นหุ้นเดิม 2.2 พันล้านหุ้น ส่วนหุ้นใหม่ติด Lock up period หลังจากหยุดการซื้อ-ขาย ตั้งแต่ 16 พ.ค. 2563 ราคาปิดสุดท้ายที่ 3.32 บาท

- "รัฐบาล" เตรียมเสนอข้อตกลง การค้าสหรัฐเข้ารัฐสภา หลังผ่านความเห็นชอบจาก ครม.นัดพิเศษ ชี้ต้องแก้กฎหมายหลายฉบับ ลดอัตรา ภาษีศุลกากร แก้มาตรฐานสุขอนามัย เพื่อเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐ เผยยังไม่สรุปหลักเกณฑ์ RVC ต้องเจรจาต่อป้องกันสวมสิทธิ์แหล่งกำเนิดสินค้า

- "เผ่าภูมิ" ชี้สหรัฐฯ เก็บภาษีไทย 19% สะท้อนศักยภาพการผลิตในประเทศดีกว่าเวียดนาม สร้างข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้างเพิ่มขีดความสามารถดึงดูดเงินลงทุนมากขึ้น มั่นใจเศรษฐกิจไทยโตได้มากกว่า 2% เตรียมออกซอฟต์โลน

ดูแลอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ

- ไทย รบ เขมร กระทบการค้า-ลงทุนเสียหายไปแล้วเดือนละ 17,000 ล้านบาท โรงแรม 4 จังหวัดอีสานใต้เงียบสนิท

ลูกค้ายกเลิกการจอง ด่านอรัญประเทศยังปิดถาวร พร้อมสำรวจแบรนด์ดังสินค้าไทย "เครื่องดื่ม-ค้าปลีก" ในตลาดกัมพูชาหยุดทำการตลาด หวั่นสินค้าจีน-เวียดนามทะลักเข้าแทนที่ โรงงานการ์เมนต์ริมขอบชายแดนปอยเปตเพิ่งกลับมาเปิดหลังหยุดยิง อนาคตยังไม่แน่ วอน 2 ฝ่ายเร่งแก้ปัญหาเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้

- "อุตสาหกรรมอาหาร" ประเมินโดนภาษีนำเข้าสหรัฐ 19% ใกล้เคียงเวียดนาม-อินโดฯ แต่มีปัญหาเดิมต้นทุนสูงกว่าคู่

แข่ง การค้าโลกหดตัว คาดอุตสาหกรรมอาหารปีนี้ติดลบ 10% "เหล็ก" รับสภาพเจอภาษีเฉพาะสินค้าสหรัฐ 50% ต้นทุนผู้ผลิตไทยแข่งไม่ไหว ด้านอุปนายกฯ สมาคมอิเล็กทรอนิกส์ไทย แนะผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์รับมือ คาดผลกระทบภาษีดัน "สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ราคาพุ่ง-ดีมานด์หด" มีความเสี่ยงซัพพลายเชน

*หุ้นเด่นวันนี้

- CKP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 3.70บาท เรามีมุมมองเชิงบวกกับ CKP จากแนวโน้ม ผลประกอบการ ไตรมาส2/68 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 755% YoY และ 796% QoQ หนุนโดยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่ง USD/THB ปรับตัวลดลงประมาณ 11.0% YoY, 4.0% QoQ ประกอบกับปริมาณการขายไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 (NN2) ที่เพิ่มขึ้น 2% YoY และ 32% QoQ ตามปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือที่พลิกกลับมาเป็นบวกที่ 497 ล้านบาท จากส่วนแบ่งผลขาดทุนจำนวน 109 ล้านบาท. ในไตรมาส2/67 อีกทั้งแนวโน้มกำไรใน ไตรมาส3/68 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า XPCL ที่เพิ่มขึ้นหลังจากการปิดซ่อมบำรุงเป็นเวลา 17 วันใน ไตรมาส3/67

- GULF (ฟินันเซีย) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 59.50 บาท เราคาดกำไรปกติไตรมาส2/68 ที่ 7.3 พันล้านบาท. +40% QoQ, +81% YoY เนื่องจาก NewCo เริ่มตั้งขึ้นวันที่ 1 เม.ย. อย่างไรก็ตามการเติบโตแข็งแกร่งจากแรงหนุนส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC ที่สูงขึ้นจากสัดส่วนการถือหุ้นที่เพิ่มจาก 19% เป็น 40.44% นอกจากนี้คาดว่าจะมีการบันทึกกำไรพิเศษที่ไม่ใช่เงินสด 5.5 หมื่นล้านบาทจากการ Amalgamation เราคาด Sentiment ตลาดทั่วโลกที่เป็นลบจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ Bond Yield ปรับตัวลดลง ค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแรง จะเป็นปัจจัยหนุนให้ GULF ปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาดวันนี้

- GUNKUL (กรุงศรี) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.40 บาท GUNKUL ประกาศเซ็น PPA ส่วนที่เหลือจากรอบพลังงาน

หมุนเวียนเฟสแรก 5,203 MW ในกลุ่มโครงการพลังงานลม 180 MW ซึ่งมีกำหนด COD ในปี 2029-30F บนราคา FiT เดิมที่ 3.10 บาท/หน่วย เรามองเป็นจิตวิทยาบวกต่อ GUNKUL (โครงการดังกล่าวรวมอยู่ในประมาณการแล้ว) เนื่องจากถือเป็นการลด Overhang จาก regulatory risk ลงไปอีก 1 จุด ปัจจุบัน GUNKUL คงเหลือ PPA ที่ยังไม่เซ็นจากรอบพลังงานหมุนเวียนเฟสสอง 2,180 MW อีก 319 MW มีกำหนด COD ในปี 27-30F ซึ่งเราประเมินยังมีระยะเวลาเหลือเพียงพอสำหรับการเซ็น PPA และก่อสร้าง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ