บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี [PTG] ประกาศฟื้นแผนลงทุนธุรกิจพลังงานทั้งการเปิดปั๊มใหม่และการลงทุนด้านพลังงานทดแทน หลังจากเห็นสัญญาณรอบด้านเริ่มดีขึ้น มั่นใจเศรษฐกิจมีทิศทางเติบโตอย่างชัดเจนหลังไทยปิดดีลภาษีสหรัฐสำเร็จ ยืนยันความพร้อมของกระแสเงินสดในมือ ขณะที่ non-oil ยังเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มกำลังหลังโชว์ยอดขายแกร่ง
นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG เปิดเผยถึงภาพรวมและแผนการลงทุนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และการคาดการณ์สำหรับครึ่งปีหลังว่า ช่วง 6 เดือนแรก บริษัทได้ชะลอการลงทุนในภาคพลังงานลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะกาแฟ ไม่ได้ชะลอตัวและยังคงขยายตัวอย่างเต็มกำลัง แต่ภาคส่วนอื่นๆ ทั้งน้ำมันและ Non-Oil อื่น ๆ บริษัทได้รอดูสถานการณ์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
แผนการลงทุนครึ่งปีหลัง:
ภาคพลังงานและ Non-Oil อื่นๆ: ในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนที่จะกลับมาขยายการลงทุน อีกครั้ง โดยพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะไม่ชะลอตัวไปมากกว่านี้มากนัก และกระแสเงินสดของบริษัท โดยแผนขยายสถานีบริการน้ำมันแห่งใหม่จะเน้นทำเลที่มีศักยภาพสูงและอยู่ในชุมชนเป็นหลัก พร้อมไปกับการรีโนเวทสถานีบริการเดิม เนื่องจากบริษัททราบศักยภาพของแต่ละสถานีดี และมั่นใจว่าการรีโนเวทสามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 20-30% ต่อสาขา ซึ่งถือเป็นการใช้เงินลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
ธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ "ออโต้แบค" ในช่วง 6 เดือนแรก บริษัทขยายสาขาไปเพียง 5 แห่ง แต่ใน 6 เดือนหลังมีเป้าหมายจะขยายเพิ่มไม่ต่ำกว่า 20 สาขา เพื่อสร้างทั้งกระแสเงินสดและผลกำไร
โรงไฟฟ้าขยะ คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลังในช่วงต้นปีหน้า หรือประมาณเดือนมกราคม ซึ่งการ Commissioning คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม หากไม่มีอะไรผิดพลาด
การผลิต RDF (Refuse-Derived Fuel) ปัจจุบันได้เริ่มเดินเครื่องผลิตเรียบร้อยแล้ว ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเครื่องจักรสามารถเดินเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นายรังสรรค์ กล่าวว่า ในแง่ของภาพรวมไตรมาส 2/68 ถือว่า QoQ เติบโตเล็กน้อย แต่ในแง่ของภาพรวมจริงๆ การบริโภคพลังงานในประเทศเราค่อนข้างจะหดตัวลง แต่ทางกลุ่มบริษัทเองก็ยังเติบโตอยู่ได้ถึงแม้จะไม่ได้มากนัก ถ้าเทียบแบบทั้งครึ่งปีแรกกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอาจจะต่ำลงมาเล็กน้อย แต่ก็ยังดีกว่าการบริโภคของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็น non-oil ของเราเติบโตสูงมาก โดย non-oil เติบโตมากกว่า 30% และยังคงเติบโตต่อเนื่อง อนาคตเราคงเน้นหนักไปทาง non-oil ให้มากขึ้น เนื่องจากภาคพลังงานเรามีส่วนหนึ่งที่ต้องร่วมด้วยช่วยกันกับภาครัฐในการดูแลประชาชนชาวไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพไม่สูงขึ้นมากนัก
"ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นในแง่ของภาคค่าใช้จ่ายหรือค่าตัดจ่ายอะไร คิดว่า EBITDA ก็เติบโตขึ้นเล็กน้อย เพราะเนื่องจากสัดส่วนของ non-oil อัตราการทำกำไรของ non-oil และสัดส่วน non-oil จะสูงขึ้นเกือบ 30% แล้ว จากปีที่แล้วประมาณ 25% ตอนนี้ 6 เดือนแรกมันก็ขึ้นมาเป็น 30% หรือ 28-30% แล้ว เราคิดว่าถ้า EBITDA เป็นอย่างนี้ EBITDA ก็ค่อนข้างจะเติบโตสำหรับปีนี้"นายรังสรรค์ กล่าวส่วนแผนส่ง บมจ.แอตลาส เอ็นเนอยี [ATLAS] ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTG เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอนนี้รอปิดงบไตรมาส 2/68 คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และเข้าจะทะเบียนได้ในช่วงไตรมาส 3/68 นี้