ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ธนาคารกสิกรไทย [KBANK] จัด Virtual Roadshow กลางปีเมื่อวันที่ 4 ส.ค.68 ซึ่งในงานนี้ CEO ของ KBANK กล่าวว่า เป้าหมายทางการเงินในปี 68 ยังไม่เปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย อัตราการเติบโตของสินเชื่อ 0%, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) 3.3-3.5%, รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเติบโต 5-9%, อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ 40-45% และอัตราการสำรองหนี้สูญ 140-160bp ขณะที่คาดปีนี้ GDP ไทยจะขยายตัว 1.5% แต่อาจมี downside risk หากนักท่องเที่ยวขาเข้าชะลอตัวมากกว่าคาดและหนี้ครัวเรือนสูง
นอกจากนี้ ผู้บริหาร KBANK ยังคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bp เป็น 1.5% ในครึ่งปีหลัง 68 ส่วนลูกค้าเป้าหมายของ KBANK ในปี 68 คือกลุ่มลูกค้าเดิม, ลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อแบบมีหลักประกันและลูกค้าที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า KBANK ปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลเป็นสูงกว่า 50% ของกำไรสุทธิ จากเดิมที่ 25% และตั้งเป้าอัตราการจ่ายเงินปันผลในระยะกลางอยู่ที่ 50-60% เพื่อเพิ่มผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น ขณะที่ฝ่ายวิเคราะห์ฯตั้งสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 50% ในปี 68-70 โดยผู้บริหาร KBANK กล่าวว่าการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 68 จะขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุมคณะกรรมการของธนาคารและจะประกาศก่อนสิ้นเดือนส.ค.68
อีกทั้ง KBANK จะพิจารณาเรื่องการจัดสรรผลกำไรเพิ่มเติมด้วยการจ่ายเงินปันผลพิเศษหรือการซื้อหุ้นคืนขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจมหภาค ขณะที่ KBANK ตั้งเป้า ROE ในปี 68 เป็นเลขสองหลัก แต่ขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจและการขยายตัวของ GDP นอกจากนี้ KBANK ตั้งเป้าอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (CET-1) ไว้ไม่ต่ำกว่า 15% ในระยะกลางและอยู่ที่ 17.7% ณ สิ้นไตรมาส 2/68 ซึ่งน่าจะช่วยลดผลกระทบจากการปฏิรูป Basel III ในปี 71
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ระบุว่า KBANK ยังให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุน โดยธนาคารมีค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 1% yoy ในครึ่งปีแรก 68 เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดและค่าใช้จ่ายอื่นลดลง ส่วนปัจจัยที่หนุนให้รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต คือ ธุรกิจบัตรเครดิต, บริการประกันผ่านธนาคาร, กองทุนรวม, การบริหารจัดการเงินทุนและค่าธรรมเนียม ผลิตภัณฑ์ธุรกิจต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินทรัพย์ยังเป็นเรื่องท้าทายสำหรับธนาคาร ซึ่ง KBANK ตั้งเป้าจะทำให้อัตราการสำรองหนี้สูญกลับมาอยู่ในระดับปกติที่ 140-160bp ในปี 68 เทียบกับสมมติฐานของฝ่ายวิเคราะห์ฯที่ 175bp
ยังแนะนำ "ซื้อ" KBANK เพราะธนาคารมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ 5.5-7.1% ต่อปีในปี 68-70 (เทียบจากค่าเฉลี่ยของ SET ที่ 3.8% ในปี 68) และราคาเป้าหมายที่ 184 บาทตามวิธี GGM จะเท่ากับ P/BV 0.74 เท่าในปี 68 อย่างไรก็ตาม KBANK จะมี downside risk หากธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือ สินเชื่อ Stage 2 พุ่งสูงขึ้นและธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนราคาหุ้นคือการปรับเพิ่มประมาณการกำไรในปี 68-70 เนื่องจากอัตราการสำรองหนี้สูญกลับมาอยู่ในระดับปกติและจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย