
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ที่ 1,277.43 จุด เพิ่มขึ้น 18.36 จุด (+1.46%) มูลค่าซื้อขาย 70,067.54 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในแดนบวกตลอดวัน โดยทำระดับสูงสุด 1,280.16 จุด และต่ำสุด 1,263.93 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 270 หลักทรัพย์ ลดลง 231 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 160 หลักทรัพย์
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นไปได้เกือบ 20 จุด (+1.5%) ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ +1% ปัจจัยหลักมาจากการคาดการณ์ว่ามีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.นี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จากที่ตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อ (CPI) ก.ค.ที่ 2.7% ต่ำกว่าคาด 2.8% และตัวเลขจ้างงาน เมื่อวันศุกร์ที่แล้วออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ตลาดกลับมาคาดการณ์เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐ
รวมทั้งวันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ก็ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% โดยเราประมาณการว่าทุกๆ 25 bps ของ BOT Rate Cut ถ้าส่งผ่านไปที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลราว 10 bps เป็น upside ต่อดัชนีประมาณ 25 จุด ผ่านทฤษฎี Earning Yield Gap นอกเหนือจากนี้ Fund Flow ระยะสั้นก็ยังไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่อยู่
อย่างไรก็ดี ให้ติดตาม 2 ปัจจัยคือการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ๊กสันโฮล ในวันที่ 21-23 ส.ค. และการเมืองในประเทศ จะเป็นปัจจัยที่จะทำให้ Fund Flow ไปต่อหรือหยุดลง
บล.กสิกรไทย ยังชอบกลุ่มปิโตรและกลุ่มไฟแนนซ์ แนะนำ PTTGC , SAWAD อีกกลุ่มคือ อสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับประโยชน์จากเรื่องดอกเบี้ยลงด้วย แนะ SPALI , AP
แนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีแกว่งตัวในกรอบ ให้แนวรับ 1,260 จุด แนวต้าน 1,285 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
THAI มูลค่าการซื้อขาย 4,435.88 ล้านบาท ปิดที่ 16.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,997.53 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,529.71 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,404.65 ล้านบาท ปิดที่ 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,177.66 ล้านบาท ปิดที่ 22.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท