เมื่อเวลา 10.00 น. KAMART ร่วง 8.24% ลดลง 0.70 บาท มาที่ 7.80 บาท มูลค่าการซื้อขาย 29.29 ล้านบาท จากราคาเปิด 7.95 บาท ราคาสูงสุด 8.00 บาท และราคาต่ำสุด 7.80 บาท
บล.โกลเบล็ก ระบุว่า บมจ.คาร์มาร์ท [KARMART] รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 รายได้อยู่ที่ 823 ล้านบาท ลดลง 9% QoQ จากฐานสูงในไตรมาส 1/68 แต่เพิ่มขึ้น 9% YoY ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 55.1% จาก 54.4% ในไตรมาส 1/68 และ 53.8% ในไตรมาส 2/67
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นถึง 49% YoY และ 14% QoQ สูงกว่าการเติบโตของรายได้ เนื่องจากบริษัทเพิ่มกิจกรรมโฆษณาและส่งเสริมการขายเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ทำให้กำไรสุทธิหลักลดลงเหลือ 153 ล้านบาท (-23% QoQ, -10% YoY)
ทั้งนี้ ไตรมาส 2/68 ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นเป็น 23% ของรายได้ จาก 18% ในไตรมาส 1/68 และ 17% ในไตรมาส 2/67 อัตราการเติบโตของค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ายอดขายอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าการตลาดเชิงรุกสร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรในระยะสั้น แม้ว่าการลงทุนเหล่านี้จะมุ่งเป้าไปที่การรักษาภาพลักษณ์แบรนด์ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่ภาพรวมทางเศรษฐกิจมหภาคไม่เอื้ออำนวย เศรษฐกิจที่อ่อนแอของไทยกดดันการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างเครื่องสำอาง ทั้งนี้ต้องรอติดตามในไตรมาสถัดไปว่าการเติบโตของรายได้จะสามารถตามทันอัตราการใช้จ่ายได้หรือไม่
เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ KAMART แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงจาก 15 บาท เป็น 12 บาท โดยอิงจาก P/E ปี 68 ที่ 19 เท่า และ P/E ปี 69 ที่ 15 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากกำไรจาก 4U2 และโมเมนตัมยอดขายที่ฟื้นตัว