KAsset ส่งกองใหม่ K-GDBOND ลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกเก็งเฟดลดดอกเบี้ย ขาย IPO 13-20 ส.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 14, 2025 10:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

KAsset ส่งกองใหม่ K-GDBOND ลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกเก็งเฟดลดดอกเบี้ย ขาย IPO 13-20 ส.ค.

นายปณตพล ตัณฑวิเชียร CFA, รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.กสิกรไทย (KAsset) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากองทุน K-GDBOND-A(A) ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก ส่งผลให้กองทุนมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่า 8 เท่านับจากสิ้นปี 2567 โดยมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิในปัจจุบันกว่า 10,000 ล้านบาท (ที่มา: บลจ.กสิกรไทย ณ วันที่ 31 ก.ค. 68) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เห็นว่าสภาวะตลาดการเงินโลกยังมีความผันผวน การกระจายการลงทุนจึงยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและมีศักยภาพในการสร้างรายได้สม่ำเสมออย่างตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก จึงได้จัดตั้ง กองทุนเปิดเค โกลบอล ไดนามิก บอนด์ UH หรือ K-GDBONDUH เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่า โดยมีกำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 13 - 20 สิงหาคม 2568

กองทุน K-GDBONDUH มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั่วโลก และมีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุนได้อย่างอิสระตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ โดยทีมผู้จัดการกองทุนหลักที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง การันตีได้จากผลการดำเนินงานของกองทุนหลักที่ติดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 30 มิ.ย. 68)

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนในกองทุน K-GDBOND เพิ่มเติมได้อีก 2 รูปแบบ ได้แก่ K-GDBOND-A(A) สำหรับการสะสมมูลค่าเพื่อเสริมพอร์ตเติบโตในระยะยาว และ K-GDBONDRMF สำหรับการลงทุนเพื่อการเกษียณ โดยมีตัวอย่างสินทรัพย์ในพอร์ตของกองทุนหลักที่น่าสนใจ ได้แก่ พันธบัตรสหรัฐฯ ระยะสั้น-กลาง ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง และตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ เป็นต้น

"บลจ.กสิกรไทย มีมุมมองเชิงบวกต่อตราสารหนี้โลก เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจจะทยอยชะลอตัวลงในครี่งปีหลัง จากผลกระทบของนโยบายทางภาษีของสหรัฐฯ โดยมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด 2ครั้งภายในสิ้นปี 2568 โดยจะดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างระมัดระวังท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายทางภาษีที่อาจจะกระทบทั้งอัตราเงินเฟ้อและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งหากตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัว ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจได้ จึงยังแนะนำให้ผู้ลงทุนทยอยสะสมตราสารหนี้โลก และมองกรอบอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ10ปี ณ สิ้นปี2568อยู่ที่ 4.1-5.0%" นายปณตพลกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ