AOT ลบ 3.13% มาที่ 38.75 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,160.31 ล้านบาท เมื่อเวลา 1055 น. จากราคาเปิด 39.75 บาท ราคาต่ำสุด 38.25 บาท ราคาสูงสุด 40.00 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ด้วยภาวะการท่องเที่ยวที่ซบเซาลง ทำให้กำไรในไตรมาส 3/68 (เม.ย.-มิ.ย.) ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] ดูไม่น่าตื่นเต้นนัก โดยมีกำไรสุทธิ 3.87 พันล้านบาท (-15.3% YoY และ -23.5% QoQ) ซึ่งใกล้เคียงเราคาด แต่สูงกว่าตลาดคาด 5% ขณะที่กำไรไตรมาส 3/68 คิดเป็น 20.3% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 1.90 หมื่นล้านบาท ทำให้กำไรสะสมงวด 9 เดือนปี 68 (ต.ค.67- มิ.ย.68) คิดเป็น 74.9% ของประมาณการทั้งปีของเรา
ส่วน EBIT margin ลดลงที่ 30.6% จาก 38.4% ในไตรมาส 3/67 และ 38.8% ในไตรมาส 3/68 อย่างไรก็ดี รายได้เกี่ยวกับการบินคิดเป็น 48.6% ของรายได้รวม และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบินคิดเป็น 51.4% โดยรวมแล้วกำไรในไตรมาส 3/68 ของ AOT สะท้อนถึงจำนวนผู้โดยสารชะลอลงที่ 28.8 ล้านคน (-0.3% YoY และ -17.2% QoQ) และจำนวนเที่ยวบินที่ 187,806 เที่ยว (+3.5% YoY แต่ -10.5% QoQ) ในช่วงฤดูนอกฤดูท่องเที่ยว นอกจากนี้ กำไรยังได้รับผลเชิงลบจากการคืนพื้นที่บริหารเชิงพาณิชย์บางส่วน อย่างไรก็ดี อัตราภาษีที่แท้จริงที่ต่ำกว่าคาดช่วยหนุนกำไรสุทธิในช่วงดังกล่าว
ในระยะสั้น เรายังคงคาดว่า AOT จะได้รับผลเชิงลบจากการเข้าบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์บางส่วนจากผู้รับสัมปทานและคืนพื้นที่สำนักงานบางส่วน ซึ่งจะทำให้รายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์เติบโตได้จำกัด ซึ่งปกติแล้วจะให้ margin เป็นที่น่าพอใจ เมื่อมองไปข้างหน้า เราคาดว่าการแก้ไขสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีของ King Power จะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้ ทั้งนี้ ข้อสรุปสุดท้ายอาจดีกว่าเราคาด (เช่น การจ่ายค่า minimum guarantee ต่ำลงจากสัญญาเดิม) นอกจากนี้ เรายังคงเชื่อว่าค่าบริการผู้โดยสารขาออก (passenger service charges: PSC) จะถูกปรับขึ้นในอนาคตด้วย
เมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 68 เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปี FY68F และFY69F ตามเดิมในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ยังคงคำแนะนำ "ถือ" AOT ราคาเป้าหมาย DCF ปี FY69F ที่ 34.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 9% และ TG ที่ 1%)