
นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.โรแยล พลัส [PLUS] เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ประเมินว่าพร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อในตลาดหลักที่ยังคงแข็งแกร่ง สนับสนุนให้ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปีนี้มีทิศทางที่สดใส และคาดว่าสามารถทำผลงานนิวไฮได้ เนื่องจากเห็นยอดออเดอร์ที่สั่งซื้อเข้ามาแล้ว ประกอบกับยังเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ และเป็นไตรมาสที่บริษัทเร่งผลิตและเร่งส่งออกได้เต็มทั้งไตรมาส
นอกจากนี้ PLUS เดินหน้ารุกตลาดสหรัฐฯ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Co-Brand ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งเริ่มทยอยส่งออกแล้ว และเตรียมวางจำหน่ายใน Walmart ห้างค้าปลีกระดับประเทศ คาดเริ่มเห็นแรงส่งเชิงบวกต่อยอดขายตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป ขณะที่ตลาดจีนยังขยายตัวต่อเนื่องจากฐานลูกค้าใหม่และคำสั่งซื้อซ้ำจากลูกค้ารายใหญ่ ส่วนยุโรปเริ่มฟื้นตัวจากสภาพอากาศร้อน หนุนการบริโภคเครื่องดื่มควบคู่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และการรุกตลาดน้ำมะพร้าว 100% ภายใต้แบรนด์ "COCO ROYAL"
ในด้านกลยุทธ์การเติบโต บริษัทเดินหน้าขยายตลาดใหม่ทั่วโลก โดยมีการปิดดีลลูกค้ารายใหม่หลายราย และเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง อาทิ Fine Food Australia และ Anuga Germany เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ กระจายความเสี่ยงเชิงภูมิศาสตร์ และย้ำจุดแข็งด้านความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดโลกอย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งปัจจัยบวกสำคัญในครึ่งปีหลัง คือ ราคาวัตถุดิบหลักอย่างมะพร้าวที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเอื้อต่อการบริหารต้นทุนและเพิ่มอัตรากำไร นอกจากนี้ บริษัทได้รับอานิสงส์จากการที่สหรัฐฯ ปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยจาก 36% เหลือ 19% ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาขายและกำลังซื้อของผู้บริโภค โดย PLUS ได้ประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าและเตรียมความพร้อมรับมือไว้แล้ว
"เรามั่นใจว่าโมเมนตัมเชิงบวกจะยังคงต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ด้วยกลยุทธ์รุกตลาดอย่างมีเป้าหมาย และความสามารถในการปรับตัวเร็วต่อสถานการณ์ ทำให้ PLUS พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับสากล" นายพลแสง กล่าวสำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/68 บริษัทมีรายได้รวม 473.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3% YoY โดยแบ่งเป็น รายได้จากการขายเท่ากับ 467.6 ล้านบาท, รายได้อื่นเท่ากับ 2.3 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 3.2 ล้านบาท สำหรับรายได้จากการขายลดลงเล็กน้อย 0.4% หรือจำนวน 1.9 ล้านบาท YoY สาเหตหลักมาจากปัจจัยภายนอก อาทิ มาตรการการจัดเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์จากการเกษตร และ ภาษีความหวานที่สูงขึ้น สถานการณ์สงครามทะเลแดง รวมถึงแนวโน้มการบริโภคที่มีเปลี่ยนแปลงยอดขายสินค้าเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวเป็นที่นิยม ทำใหยอดขายกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมเม็ดแมงลักและเมล็ดเจียลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมีปัจจัยบวกสำคัญจาก ผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง "น้ำมะพร้าว 100% บรรจุขวด PET" ที่สามารถสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) และไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)
บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 2/68 เท่ากับ 16.9 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิ 3.6% ของรายได้จากการขาย ลดลงจำนวน 15.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 32.8 ล้านบาท
ส่วนงวด 6 เดือนปี 2568 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 27.1 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนขาดทุนสุทธิ 3.6% ของรายได้จากการขาย ลดลงจำนวน 72.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 159.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 45.6 ล้านบาท
สาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนในไตรมาสที่ 1/68 เท่ากับ 44.1 ล้านบาท รวมถึงรายได้จากการขายที่ลดลง และต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น
นายพลแสง ผลประกอบการในไตรมาส 2/68 ของบริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรจากไตรมาสก่อนได้อย่างแข็งแกร่ง จากอานิสงส์ของคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่วง High Season ประกอบกับออเดอร์จากช่องทาง Mainstream ที่ยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และการเปิดตลาดใหม่ในประเทศแคนาดาที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
โดยผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง "น้ำมะพร้าว 100% บรรจุขวด PET" มียอดเติบโตโดดเด่นทั้งเทียบรายปี (YoY) และรายไตรมาส (QoQ) จากการทยอยส่งออกให้กับลูกค้า ODM รายใหม่ในประเทศจีน และจากคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องจากแบรนด์ "COCO ROYAL" ซึ่งช่วยสนับสนุนรายได้ของบริษัทในไตรมาสนี้