นางสาวอภิศมา ณ สงขลา ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายบริหารเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.บัตรกรุงไทย [KTC] เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปี 68 เติบโต 10% ถึงแม้ครึ่งปีแรกจะเติบโตเพียง 4.4% แต่ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมที่เติบโตแค่ 0.7% ส่วนกำไรสุทธิครึ่งปีแรก ทำไปได้ 3,755 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 7,437 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนหนีเสี้ย (NPL) มั่นใจว่าจะควบคุมให้ไม่เกิน 2% โดยครึ่งปีแรกสามารถลดเหลือ 1.83% แล้ว จาก 1.95% เมื่อปีก่อน
ส่วนเป้าหมายอื่น ๆ นั้นยังมีพอร์ตสินเชื่อรวมโตทั้งปี 4-5% สามารถทำไปได้ 1.2% ในครึ่งปีแรก, พอร์ต KTC PROUD ครึ่งปีแรก ขยายตัว 0.6% ยังไม่แตกต่างจากปี 67 จากเป้าเติบโต 3%, และยอดสินเชื่อรถ "พี่เบิ้ม" ตั้งเป้าปีนี้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท สามารถทำได้ไปแล้ว 1,048 ล้านบาท
นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต ของ KTC กล่าวว่า บริษัทฯ มองว่าช่วงท้ายปีคงมีหวังให้ KTC สามารถทำถึงเป้าได้ เนื่องจากไตรมาสที่สุดท้ายของปีมักเป็นช่วงเวลามีการใช้จ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มครึ่งปีหลัง ยังมีความไม่แน่นอนหลายเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของคนไทย เช่น เศรษฐกิจที่คาดว่าจะชะลอตัวลง ปัญหาหนี้ครัวเรือน และนโยบายภาษีสหรัฐฯ เริ่มมีผล โดย KTC ก็จะทำการตลาดเจาะจงกลุ่มลูกค้าและประเภทสินค้าหรือบริการที่ยังมีการใช้จ่ายมากอยู่ โดยเฉพาะหมวดหมู่ที่มีความจำเป็น อย่างสุขภาพหรือประกัน
สำหรับธุรกิจหน้านายขายประกัน ซึ่งจะเป็นธุรกิจใหม่ของ KTC นางสาวอภิศมา กล่าวว่า อาจจะต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อมในช่วงนี้ไปก่อน ตั้งแต่ การขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น ขอใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงฝึกพนักงานเพิ่มเติม จึงคาดว่าน่าจะเริ่มเห็นรายได้ตั้งแต่ปี 69 เป็นต้นไป โดยที่ผ่านมา หมวดหมู่ประกัน คิดเป็นค่าใช้จ่ายอันดับ 1 ของค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งหมดมาตลอด ดังนั้น ธุรกิจหน้าขายนี้จะช่วยส่งเสริมธุรกิจอื่น ๆ ของ KTC ได้ ทั้งธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล
ส่วนกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อวานนี้ KTC มองว่าจะเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายการทางเงินให้กับบริษัท และจะยังไม่มีผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยที่ KTC เรียกเก็บกับลูกค้า โดยดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากสินเชื่อบัตรเครดิต (16%) สินเชื่อส่วนบุคคล (25%) และสินเชื่อรถยนต์ (24%) จะยังคงอัตราเดิมไว้
นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ KTC กล่าวว่า ช่วงนี้ผู้ประกอบการพันธมิตรให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก จากสภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย และถึงแม้ KTC จะเริ่มควบคุมค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะต้นทุนการตลาด แต่ปลายปีก็ยังเตรียมจัดแคมเปญใหญ่ ๆ เพื่อช่วยเหลือพันธมิตรทั้งรายใหญ่และรายย่อย แต่ก็จะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อการเติบโตระยะยาวอย่างยั่นยืน
นางพิทยา กล่าวว่า การจ่ายปันผลจะยังคงไว้ไม่ต่ำกว่า 40% ตามนโยบายอยู่ และมองว่าเป็นระดับที่เหมาะสมในวีนนี้ ถึงแม้ผู้ถือหุ้นอาจจะมีความต้องการให้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ อยากเก็บกำไรสะสมตรงนี้ไว้ก่อน เพราะมองเห็นโอกาสที่ KTC สามารถเติบโตได้