นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จีเอเบิล [GABLE] กล่าวว่า แม้ว่ามีความผันผวนทางเศรษฐกิจจากภายในและภายนอกประเทศ บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในไตรมาส 2/68 สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 6,530 ล้านบาท อีกทั้งยังปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความคล่องตัวในการดำเนินงาน ส่งผลให้ในไตรมาส 2/68 และทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/68 และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตลอดจนมีกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเช่นเดียวกัน
นางสาวรวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ GABLE กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทเติบโตในไตรมาส 2/68 โดยรายได้จากการขายและบริการ 1,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสแรก หากไม่นับรวมรายได้จากโครงการขนาดใหญ่ด้านฮาร์ดแวร์ ในไตรมาส 2/67 บริษัทจะมีรายได้จากการขายและบริการในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นเป็น 20.4% จากเดิมที่ 15.7% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 5.5% จาก 3.2% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความสามารถในการควบคุมต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/68 กลุ่มบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในระดับ 6,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสแรก และเพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต
สำหรับแผนธุรกิจในปี 68 กลุ่มบริษัทตั้งเป้าหมายในการสร้างรายได้เติบโต 5-15% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากปี 67 โดยรักษาอัตรากำไรขั้นต้นระดับ 19-20% ใกล้เคียงปีก่อน พร้อมเป้าหมายรายได้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง (Recurring Income) ระดับ 40-50% และเป้าหมาย Backlog ที่ระดับสูงกว่า 5,500-6,500 ล้านบาท
จากความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และการมีวินัยทางการเงินของกลุ่มบริษัท โดยมีอัตราส่วนที่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนในระดับต่ำเพียง 0.05 เท่า และมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งมากกว่า 900 ล้านบาท ที่พร้อมรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท