นายภณภัทร เมฆาสุวรรณดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง [IROYAL] เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าปี 68 จะสามารทำรายได้รวมเติบโตกว่าเท่าตัวจากปี 67 ตามเป้าหมาย โดยพิจารณาจากพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งมีความมั่นคง และความสำเร็จจากโครงการ ต่างๆ
รวมไปถึงความสำเร็จจากการจับมือร่วมพันธมิตรทางธุรกิจกับองค์กรชั้นนำ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ อาทิ บริษัท อีสต์ เอ็นเนอร์ยี่ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ EEST ENERGY ผู้นำด้านให้บริการ ด้านพลังงานบนบก และนอกชายฝั่งระดับโลก เป็นต้น นับว่าช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น
บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอรับรู้รายได้ (backlog) กว่าอีก 721 ล้านบาท ทั้งโครงการของธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจวางระบบสื่อสาร ธุรกิจวิศวกรรมบริการตรวจสอบและซ่อมบำรุง เพื่อสนับสนุน การสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียม โดยคาดว่ารับรู้รายได้เพิ่มเติมในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท จาก Backlog นี้ รวมถึงมีแผนงานระยะยาวที่ได้ตั้งเป้ากรอบงานระยะ 3 ปี โดยจะเติบโตในแต่ละปีเฉลี่ย (CAGR) ประมาณกว่าเท่าตัว
สำหรับผลงานไตรมาส 2/68 บริษัททำรายได้รวม 135 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 222% จากไตรมาสก่อนที่มีรายได้รวม 41.86 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้น 328% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยรายได้รวม เติบโต 324% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2567 ที่มีรายได้ 31.8 ล้านบาท และ IROYAL มีกำไรสุทธิรวม 40 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 246% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2567 ที่มีกำไรสุทธิรวม 11.5 ล้านบาท สะท้อนถึงการวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างมีกลยุทธ์ ซึ่งสามารถทรานฟอร์มสู่ New S-Curve ที่ก่อให้เกิดรายได้และสร้างการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเป็นไปตาม วิสัยทัศน์ใหม่ที่มุ่งสู่ธุรกิจยั่งยืน (Sustainable business) โดยตระหนักถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ การสร้างคุณค่าให้กับสังคม และการรักษา สิ่งแวดล้อมให้คงอยู่
นางสาวประภาพรรณ ประภัทรโพธิพงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IROYAL เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/68 นับว่าประสบความสำเร็จเป็นไปตามโรคแมพ จากแผนธุรกิจที่เน้นการสร้างรายได้ แบ่งออกเป็น 1.รายได้จากฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจเดิมสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ 2.รายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง โดยได้ขยายไปป์ไลน์ต่อยอดจากจุดแข็งและ ความเชี่ยวชาญเดิม ขยายสู่ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง อาทิ กลุ่มงานวางระบบสื่อสาร สามารถสร้างรายได้เพิ่ม 81 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 60% ของรายได้หลักในผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/68
โดยบริษัทฯ ยังเดินหน้า R&D และอยู่ในระหว่างการศึกษาโอกาสในธุรกิจทางด้าน ESG โดยตั้งเป้า กรอบของสัดส่วนรายได้ระหว่างธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่แบ่งเป็นสัดส่วนเท่ากันอยู่ที่ 50% ในปี 68 นี้