
SET ปิดวันนี้ที่ 1,259.42 จุด ลดลง 7.25 จุด (-0.57%) มูลค่าซื้อขาย 48,320.80 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงเริ่มมีแรงกดดันให้ Fund Flow ไหลออกหลังเงินบาทกลับมาอ่อนค่า และดัชนี PPI สหรัฐสูงกว่าคาดกระทบการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ valuation หุ้นไทยแพงและขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ หลังรับรู้ข่าวดีไปหมดแล้ว แนวโน้มสัปดาห์หน้าแนะติดตาม GDP ไทย และประชุมเฟดรอบ Jackson Hole ให้กรอบแนวรับ 1,230 จุด แนวต้าน 1,280 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ ปิดวันนี้ที่ 1,259.42 จุด ลดลง 7.25 จุด (-0.57%) มูลค่าซื้อขาย 48,320.80 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลง โดยทำระดับสูงสุด 1,270.89 จุด และต่ำสุด 1,253.51 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 232 หลักทรัพย์ ลดลง 258 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 158 หลักทรัพย์
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงเริ่มเห็นแรงกดดัน ทำให้กระแสเม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง หลังเงินบาทกลับมาอ่อนค่า และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด เพิ่มความเสี่ยงที่ผู้ผลิตจะผลักดันราคาที่เพิ่มขึ้นตรงนี้มายังผู้บริโภค กระทบต่อการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่ valuation หุ้นไทยที่ค่อนข้างสูง แต่กลับขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ หลังรับรู้ข่าวดีลการค้าไทย-สหรัฐฯ และมติลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
แนวโน้มสัปดาห์หน้า แนะนำให้ติดตามรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไทย และผลการประชุมเฟดรอบ Jackson Hole เพื่อประเมินทิศทางนโยบายดอกเบี้ยสหรัฐฯ
โดยให้กรอบแนวรับ 1,230 จุด และแนวต้าน 1,280 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
THAI มูลค่าการซื้อขาย 6,701.10 ล้านบาท ปิดที่ 16.50 บาท ลดลง 1.30 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,739.56 ล้านบาท ปิดที่ 20.90 บาท ลดลง 0.80 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,453.68 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,890.67 ล้านบาท ปิดที่ 24.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 1,548.39 ล้านบาท ปิดที่ 24.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.90 บาท