ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,254.70 จุด ลดลง 4.72 จุด (-0.37%) มูลค่าซื้อขายราว 20,153 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีช่วงต้นลงมาลึกแต่เด้งกลับและแกว่งตัวในกรอบ โดยทำระดับสูงสุด 1,260.23 จุด และต่ำสุด 1,249.73 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับลงลึกช่วงสั้นจากแรงขายหุ้น THAI และ DELTA ที่กดดัชนี 5 จุด แต่ DELTA พลิกเป็นบวก ทำให้ลดช่วงลบ ขณะที่กลุ่มค้าปลีก นำโดย CPALL กลับมายืนได้หลังตัวเลข GDP ในไตรมาส 2/68 ของไทยที่ 2.8% ออกมาดีกว่าคาด
ส่วนกลุ่มพลังงานปรับลงจากราคาน้ำมันลดลง หลังจากการประชุมผู้นำระหว่างรัสเซียและสหรัฐ ในการเจรจาหยุดยิงกับยูเครน แม้จะยังไม่มีข้อสรุปแต่มีท่าทีผ่อนคลายความตึงเครียด ซึ่งต้องติดตามการหารือกับยูเครน
อย่างไรก็ดี ตลาดแกว่งในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากตลาดรอผลการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันที่ 21-23 ส.ค.และในปลายสัปดาห์ (22 ส.ค.) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายคาดว่า ดัชนีน่าจะทรงตัว แม้ทางเทคนิคมีการพักฐาน ซึ่งวันนี้ดัชนีก็ไม่ได้ปรับตัวลงมาก เพราะรายงาน GDP ไทยที่ออกมาดีเกินคาดช่วยไว้
พร้อมให้แนวรับที่ 1,250 จุดซึ่งเป็นแนวรับจิตวิทยา และแนวต้านที่ 1,260 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,916.30 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
THAI มูลค่าการซื้อขาย 1,770.93 ล้านบาท ปิดที่ 15.80 บาท ลดลง 0.70 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 731.18 ล้านบาท ปิดที่ 24.40 บาท ลดลง 0.10 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 646.51 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 641.56 ล้านบาท ปิดที่ 297.00 บาท ลดลง 1.00 บาท