ก.ล.ต. - ตลท.ร่วมกำหนด "6 มาตรฐานองค์ความรู้กรรมการไทย" ยกระดับการกำกับ บจ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 18, 2025 15:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. มุ่งมั่นส่งเสริมและยกระดับบรรษัทภิบาลที่ดีของบริษัทจดทะเบียน โดยตระหนักว่า คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงเป็นหัวใจสำคัญและพลังขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ธรรมาภิบาลที่ดีเริ่มต้นจากผู้นำองค์กรที่เป็นแบบอย่างที่ดี (Set Tone at the Top) ในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส และยึดมั่นในจริยธรรม เพื่อวางรากฐานวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ด้วยจำนวนกรรมการบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก.ล.ต. จึงได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดมาตรฐาน 6 องค์ความรู้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพกรรมการให้เข้มข้น ครอบคลุมยิ่งขึ้น และเพื่อให้กรรมการมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนมีระบบและกลไกภายในที่จะสามารถสร้างวินัยในตนเอง (Self-Discipline) โดยการนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG Code) มาปรับใช้เพื่อยกระดับการกำกับดูแลกิจการให้โปร่งใสและน่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และนำไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจ สังคม และตลาดทุนโดยรวม

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีบรรษัทภิบาลเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ และตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยเฉพาะการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งของคณะกรรมการในการดูแลผลประโยชน์ขององค์กร แม้ประเด็นทุจริต การกระทำผิดจรรยาบรรณ และความบกพร่องในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทจะมีสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด แต่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมุ่งพัฒนาเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแล และส่งเสริมการพัฒนาระบบกำกับดูแลที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดมาตรฐานองค์ความรู้สำคัญเพื่อเป็นรากฐานการทำหน้าที่ของกรรมการอย่างมืออาชีพ ได้แก่ 1) บทบาทและการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการอย่างมีประสิทธิผล 2) ความรับผิดชอบของคณะกรรมการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3) ความรับผิดชอบของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับบัญชีและการเงิน 4) การกำกับดูแลความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ขององค์กร 5) การขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน และ 6) การรายงานและการเปิดเผยข้อมูล

วัตถุประสงค์หลักของการกำหนดมาตรฐานองค์ความรู้สำคัญ 6 ด้าน ประการแรก เพื่อสนับสนุนให้กรรมการทุกคนได้รับความรู้พื้นฐานสำหรับการปฏิบัติหน้าที่อย่างครบถ้วน เป็นปัจจุบันและสม่ำเสมอ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเปิดเผยข้อมูลการพัฒนาตนเอง ผ่านแบบ 56-1 One Report ประการที่สอง เพื่อให้องค์กรทั้งไทยและต่างประเทศที่จัดอบรมให้แก่กรรมการ เข้าใจและสามารถพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานความรู้ตามที่ภาคตลาดทุนร่วมกันกำหนด ซึ่งจะช่วยให้กรรมการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบ เต็มความสามารถ และเกิดประสิทธิผล

นอกจากมาตรฐานองค์ความรู้ทั้ง 6 ด้านแล้ว กรรมการควรพัฒนาทักษะความรู้อื่นที่จำเป็น อาทิ ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจขององค์กร การกำกับดูแลความมั่นคงด้านสารสนเทศและปัญญาประดิษฐ์ และการจัดการภาวะวิกฤต ปัจจุบันมีสถาบันจัดอบรมความรู้กรรมการในประเทศหลายแห่งที่ได้พัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์ความรู้กรรมการ ได้แก่ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) ที่เป็นหน่วยงานพัฒนาความเป็นมืออาชีพของกรรมการ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ เช่น สภาวิชาชีพบัญชี สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย และมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ