นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ไนกรอบ โดยที่ดัชนียังอยู่ในโหมดที่ชะลอความร้อนแรง หลังจากที่ปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก ทำให้สลับมาพักตัว และยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่เข้ามาเพิ่มเติม
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังคงรอความชัดเจนเกี่ยวกับการตัดสินคดีความที่เกี่ยวข้องกับการเมือง โดยเฉพาะคดีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญกำหนดวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.ที่จะถึงนี้ และจะมีผลต่อคณะรัฐมนตรี ทำให้นักลงทุนยังคงรอติดตาม ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
โดยให้แนวต้าน 1,250 จุด แนวรับ 1,235 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (18 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,911.82 จุด ลดลง 34.30 จุด หรือ -0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,449.15 จุด ลดลง 0.65 จุด หรือ -0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,629.77 จุด เพิ่มขึ้น 6.80 จุด หรือ +0.03%
- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดปรับตัวผสมผสาน ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 43,846.55 จุด เพิ่มขึ้น 132.24 จุด หรือ +0.30%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,241.29 จุด เพิ่มขึ้น 64.44 จุด หรือ +0.26% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,728.48 จุด เพิ่มขึ้น 0.45 จุด หรือ +0.01%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 ส.ค.) 1,242.31 จุด ลดลง 17.11 จุด (-1.36%) มูลค่าซื้อขาย 39,299.17 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (18 ส.ค.) 648.64 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (18 ส.ค.) เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 63.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 ส.ค.) อยู่ที่ 4.31 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.51/54 อ่อนค่าตามภูมิภาค ไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดจับตาการประชุมประจำปีของเฟด
- "สภาพัฒน์" ปรับจีดีพีปี 2568 ขยายตัวได้ 2% จากเดิม 1.8% จีดีพีไทยไตรมาส 2 ปี 2568 ขยายตัว 2.8% ขณะที่ครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยขยายตัว ได้ 3.0% มองการลงทุนฟื้น ส่งออกโต แนะเร่งคุยสหรัฐ เรื่องแหล่งกำเนิดสินค้า ชี้เศรษฐกิจไทยต้องปรับโครงสร้างจากภายใน เพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันระยะยาว ชี้การเมืองไม่กระทบเศรษฐกิจ
- "เวียดนาม" ผงาดเอเชียประกาศแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ มูลค่า 10% ของจีดีพีหรือราว 1.5 ล้านล้านบาท ตั้งเป้าสู่เสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของเอเชีย เป็นประเทศรายได้สูงปี 2045 "ทีดีอาร์ไอ" ชี้เป็นสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ หวั่นไทยสูญเสีย ความสามารถแข่งขัน ส.อ.ท. แนะไทยตื่นตัว เร่งปฏิรูปเศรษฐกิจก่อนถูกแซงทุกมิติ "หอการค้า" เร่งรัฐเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐาน ดึงนักลงทุนต่างชาติ สศช.ชี้ไทยมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง แต่การลงทุนต้องขึ้นกับความพร้อมงบประมาณ เชื่อไทยยังนำหน้าพร้อมดึงลงทุน
- จับตาแก้สัญญา "ไฮสปีด 3 สนามบิน" เข้าบอร์ด รฟท. 21 ส.ค.นี้ หลังอัยการสูงสุดเห็นแย้งแบ่งจ่าย สิทธิบริหาร "แอร์พอร์ตลิงก์" ควรเร็วกว่า 7 งวด พร้อมเร่ง "ซีพี" วางแบงก์การันตี 1.6 แสนล้าน รับเงื่อนไข "สร้างไปจ่ายไป" ด้านอีอีซีตั้งเป้าเสนอ สกพอ.ต้นเดือน ก.ย.นี้ และลงนามเอกชน ดันก่อสร้างปีหน้า
- คลังโหมโรง 'โครงการ TouristDigiPay' เปิด Sandbox 18 เดือน ปลดล็อกนักท่องเที่ยวต่างชาติแลกคริปโท เคอร์เรนซี เป็นเงินบาทใช้จ่ายไม่จำกัดพื้นที่ หวังดันเงินสะพัดเพิ่ม 10% หรือ 1.75 แสนล้านบาท เตรียมคิกออฟไตรมาส 4/68
- "บีโอไอ-ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย" ผนึกกำลังดึงต่างชาติที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง 3 สาขาหลัก เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมส่งเสริมบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ให้สามารถสร้างมูลค่า และความยั่งยืนในระยะยาว
*หุ้นเด่นวันนี้
- SYNEX (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 13.76 บาท โมเมนตัมการเติบโต y-y ใน 2H25 คาดว่ายังใกล้เคียงกับ 1H25 ที่ +17% y-y หนุนจากการเปิดตัวสินค้า IT ต่อเนื่องทั้ง iOS และ Android ด้าน Nintendo Switch 2 อาจมีชะลอตัวบ้างในเดือน มิ.ย. แต่คาดกลับมาดีขึ้นหลังได้ Supply Lot ใหม่ใหม่ในเดือน ก.ย. และมียอดขายเกมส์มากขึ้น ยังคงมุมมองกำไรไตรมาส 3/68 ยังทำ New High ได้ต่อเนื่อง และมีโอกาสกลับรายได้ Credit Loss ราว 10 ลบ.ในระยะถัดไปเนื่องจากลูกค้าคาดว่าจะได้รับเงินจาก End User ด้านราคาหุ้นปรับตัวลงแรง 12.5% จาก High ช่วงสัปดาห์ก่อน ทำให้ Upside เปิดกว้าง เป็นจังหวะในการเข้าลงทุนอีกครั้ง
- CKP(เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.70 บาท ลานีญา หนุนปริมาณน้ำในครึ่งปีหลัง ENSO index ประจำเดือน ก.ค. 68 ปรับเพิ่มโอกาสเกิด ลานีญา ในเดือน ก.ค. - ธ.ค. 68 โดยมีโอกาสเกิดสูงสุดถึง 50% (จาก 40% ในประมาณการเดิม) ในเดือน ธ.ค. 68 ส่งผลให้ปริมาณน้ำมี upside จากปัจจัยดังกล่าว เราคาดกำไรปี 68 โต 40%YoY โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของโรงไฟฟ้า XPCL หลังจากที่ต้องหยุดดำเนินการไป 17 วันในปี 2567 ในขณะที่ PE ปี 68 อยู่ที่ 12.8 เท่า (-1.6SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) พร้อมกับเงินปันผล 3.2%
- ADVICE (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.40 บาท กลุ่มสินค้าไอมี Demand จากการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(เช่น AI PC) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น ด้าน ADVICE เองรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 75 ลบ.(+23%YoY, +18%QoQ) SSSG +21.84%YoY มีแรงหนุนจากกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟน ทั้งนี้ ทางผู้บริหารวางเป้ารายได้ปีนี้ +20%YoY ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสมาร์ทโฟนเป็น 50% ภายในปี 70 (ปัจจุบัน 25%) ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี 68 และ69 กำไรสุทธิของ ADVICE จะอยู่ที่ระดับ 268 ลบ.(+15%YoY) และ 311 ลบ.(+16%YoY)