นายพิธาน องค์โฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ [KCE] เปิดเผยว่า KCE มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ระดับโลก โดยมีเป้าหมายขยายการผลิต PCB ให้ครอบคลุมเทคโนโลยีในทุกด้าน ทั้งชิ้นส่วนรถยนต์และผลิตภัณฑ์นอกกลุ่มยานยนต์ โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับการขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง
"KCE ให้ความสำคัญกับเรื่อง Innovation และ Machine learning เพื่อรองรับความต้องการ PCB ในตลาดที่สูงขึ้น พร้อมกับการควบคุมต้นทุนในการผลิตให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ" นายพิธานกล่าวสำหรับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาระบบนิเวศอิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้มีความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนนั้น นายพิธานมองว่าจุดแข็งของประเทศไทย คือการเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอุตสาหกรรม PCB และกลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ (EMS) ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมให้เติบโตต่อไปได้
นายพิธาน กล่าวต่อไปถึงกุญแจสำคัญ 4 ประการในการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก ได้แก่
- การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ต้องมีการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ปรับปรุงกระบวนการผลิต และใช้วัสดุใหม่ ๆ เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
- การพัฒนาบุคลากร ในยุคดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ บุคลากรต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติ การควบคุมคุณภาพด้วย AI และมีทักษะด้าน R&D
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและห่วงโซ่อุปทาน การเชื่อมโยงผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ และแรงงาน จะช่วยสร้างห่วงโซ่คุณค่าที่ครบวงจร และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตในอาเซียน
- การผลิตสีเขียวเพื่อความยั่งยืน ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดของเสีย ลดการใช้พลังงาน และพัฒนากระบวนการผลิตที่เป้นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ดังกล่าว ทาง KCE เตรียมเข้าร่วมงาน THECA 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม 2568 นี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยมองว่างานนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และในปีนี้ ยังได้ขยายขอบเขตของงานไปสู่กลุ่ม Advanced Packaging และ Semiconductor ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีแห่งอนาคต
"งานนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสเชื่อมต่อกับพันธมิตรระดับโลก เพื่อขยายธุรกิจ รวมถึงสร้างความร่วมมือ และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและยะระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยในระยะยาว" นายพิธานกล่าวสรุป