PTT คาดผลงานครึ่งปีหลังทรงตัว มั่นใจกลยุทธ์ EBITDA Uplift มาถูกทาง ลุยปรับพอร์ตปิโตร-โรงกลั่นภายในปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 20, 2025 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. [PTT] เปิดเผยถึง ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 68 คาดทรงตัวระดับใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก เนื่องจากประเมินว่าราคาน้ำมันน่าจะทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ด้วยภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้ธุรกิจกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่นน่าจะยังทรงตัว ซึ่งบริษัทจะสรุปชื่อพันธมิตรใหม่ระดับโลกธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นได้ภายในสิ้นปีนี้ก่อนจะทำธุรกรรมแล้วเสร็จภายในปี 69 โดย PTT จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ด้วยภาวะปัจจุบันที่ยังมีความท้าทายจากหลายปัจจัย อาทิ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ภาษีการค้า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลง แต่บริษัทมั่นใจกลยุทธ์ของกลุ่ม PTT มาถูกทาง โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจหลักให้แข็งแรง ปรับโครงสร้างเน้นธุรกิจที่บริษัทมีความแข็งแกร่ง

นายคงกระพัน มั่นใจว่า PTT ยังสามารถเดินหน้ากลยุทธ์ EBITDA Uplift ได้ตามแผน ระยะสั้นโครงการ P1&D1 เป้าหมายทำได้ 4,325 ล้านบาทในปี 68 ซึ่งครึ่งปีแรกทำไปได้ 2,383 ล้านบาท โครงการ MissionX ยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพเป้าหมายปี 68 อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ครึ่งปีแรกทำได้ 4,700 ล้านบาท โครงการ AXIS เป้าหมายปี 68 ที่ 200 ล้านบาท ครึ่งปีแรกทำได้ 60 ล้านบาท

บริษัทมุ่งสร้างกระแสเงินสด 38,000 ล้านบาท ในปี 68 และ 77,000 ล้านบาทในปี 69 ซึ่งการบริหารสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Asset Monetization : A1) จะเริ่มสร้างประแสเงินสดอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีเป้าหมายสร้าง Synergy และ Optimization Cash 100,000 ล้านบาทใน 2 ปี (68-69) เพิ่ม ROIC อีก 5-10% ผ่านการปรับโครงสร้างการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งในครึ่งปีแรกบริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ EV และล่าสุดขายหุ้นในบริษัท Neo Mobility Asia ทำให้ธุรกิจ EV ปัจจุบันเหลือธุรกิจ EV Charger ที่เป็นการร่วมมือกับบมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก [OR] และช่วงที่เหลือของปีจะมีการบริหารสินทรัพย์แปลงเป็นเงินสดเพิ่มอีก

ขณะที่แผนระยะกลาง ได้แก่ Reshape P&R Portfolio โครงการปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก (Flagship) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่มีศักยภาพ และตั้งเป้าจะสรุปรายชื่อพันธมิตรที่ผ่านการคัดเลือก (Shortlist Partner) ภายในปี 68 และเริ่มดำเนินการตามแผนให้แล้วเสร็จภายในปี 69 การขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Growth): ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 10 ล้านตันต่อปี (MTPA) ภายในปี 73 และเพิ่มเป็น 15 ล้านตันต่อปีภายในปี 78

สำหรับแผนระยะยาวมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคตและพลังงานสะอาด ได้แก่ เทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) มีแผนพัฒนาโครงการ CCS ทั้งที่แหล่งอาทิตย์และในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen) จัดทำแผนการดำเนินงานสำหรับพลังงานไฮโดรเจนสีเขียวภายในปี 68 และวางแผนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนภายในปี 73

นายคงกระพัน กล่าวถึงผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรกปี 2568 ยังคงแข็งแกร่งด้วยกำไรสุทธิ 44,848 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิของทั้งปี 67 ที่อยู่ที่ 90,072 ล้านบาท ทำให้มั่นใจได้ว่ากลยุทธ์มาถูกทาง แม้ว่าจะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอก ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ราคาน้ำมันดิบโลกลดลงส่งผลให้ส่วนต่างสต็อกน้ำมันลดลง ประกอบกับ Spread ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ลดลง นอกจากนี้ในปี 67 บริษัทรับรู้กำไรจากรายการพิเศษมากกว่าปีนี้ ซึ่งเป็นรายการที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ (Non-recurring items) อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงสามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

"ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน" โดยมีหัวใจในการสร้างความสมดุลทางพลังงานให้กับประเทศ สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่สำคัญในภาพรวมที่ผ่านมา ดังนี้

ธุรกิจ Hydrocarbon ที่เป็นธุรกิจหลักของ ปตท. มีความเชี่ยวชาญ โดยเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ มุ่งเน้นเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การขยายธุรกิจด้านสำรวจและผลิต โดย บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม [PTTEP] ได้ขยายการสำรวจและผลิตในแหล่งใหม่ๆ โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากทั้งแหล่งอาทิตย์ แหล่งสินภูฮ่อม และแหล่ง MTJDA รวมไปถึงชนะการประมูลในโครงการ Reggane II

ขณะเดียวกัน ปตท. ได้ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Global LNG Player สร้างการเติบโต ขยาย LNG Portfolio สู่เป้าหมาย 10 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 และ 15 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2578 พร้อมลงนามข้อตกลงร่วมศึกษาการจัดหา LNG ระยะยาวกับบริษัท 8 Star Alaska, LLC ประเทศสหรัฐอเมริกา

ธุรกิจ Non-Hydrocarbon มีความก้าวหน้าที่ดี เดินตามแผนกลยุทธ์ปรับพอร์ตการลงทุน โดยธุรกิจ Life Science ร่วมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ สร้างการเติบโตแบบพึ่งพาตนเอง (Self-funding) ปรับการถือหุ้น Lotus ผ่านธุรกรรมการขายหุ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัว รวมทั้งปรับโครงสร้างธุรกิจ EV จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด โดยเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ