HILITE: โบรกมองบวกกลุ่มแบงก์หลังคลังเปิดทางตั้ง JV AMC รอบใหม่ ช่วยให้การลดลงของ NPL เร่งตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 26, 2025 10:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการคลังกำลังหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งระบบผ่านบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ AMC โดยจะดำเนินการแก้ไขหลักเกณฑ์เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์แบบร่วมทุน (JV AMC) เพื่อดูแลหนี้เสียของตัวเองได้ ซึ่งไม่ใช่การตั้ง AMC แห่งชาติ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ธนาคารร่วมทุนกับ AMC ที่มีอยู่แล้วเพื่อจัดตั้งเป็น JV AMC สำหรับธนาคารที่ยังไม่มีศักยภาพในการดำเนินการเรื่องนี้ก็สามารถใช้ AMC ที่มีอยู่แล้ว เช่น ARI AMC ของธนาคารออมสินได้

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้จัดทำ อารีย์ สกอร์ (Ari Score) ซึ่งเป็นระบบคะแนนเครดิตใหม่ที่ใช้ข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) ของประชาชน เพื่อช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่มีประวัติเครดิตในระบบสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

บล.ดาโอ มีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร คาดว่าจะช่วยเร่งให้ NPL ลดลงได้ดีในอนาคต โดยการทำ JV AMC เป็นรูปแบบเดิมที่ปัจจุบันมีอยู่แล้ว และจะไม่มี AMC แห่งชาติ อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามการผ่อนผันของ ธปท.ว่าจะมีการยืดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ JV AMC ได้มากกว่า 15 ปีหรือไม่ (เดิมทำได้ไม่เกิน 15 ปี) และลุ้นว่าจะมีมาตรการจากรัฐในการอัดฉีดอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มธนาคารอยากทำ JV AMC มากขึ้น

ปัจจุบัน KBANK ทำ JV ร่วมกับ JMT และ BAM อยู่แล้ว (ระยะเวลาที่อนุญาตให้ดำเนินธุรกิจ JV AMC ได้ไม่เกิน 15 ปี) โดย KBANK เริ่มทำ JV AMC กับ JMT (JK AMC) เมื่อช่วงไตรมาส 3/65 ทำให้ NPL ของ KBANK ลดลงได้ดีมาก มาอยู่ที่ 3.07% จากไตรมาส 2/65 ที่ 3.80% ขณะที่เราดูจากงบของ JMT พบว่ามีส่วนแบ่งกำไรที่ได้จาก JK AMC งวดครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 144 ล้านบาท (จากครึ่งแรกของปี 2567 ที่ 228 ล้านบาท) ซึ่งหากคิดแบบทั้งปี จะคิดเป็นสัดส่วนที่ 0.6% ของกำไรสุทธิปี 2568 ของ KBANK

เรายังคงน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มธนาคารเป็น "มากกว่าตลาด" เพราะ Valuation ยังถูก โดยซื้อขายที่ระดับเพียง 0.65x PBV (-1.25SD below 10-yr average PBV) และระดับ Dividend Yield ของกลุ่มที่อยู่สูงถึง 7% จากค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นที่ 3% โดยเรายังคงเลือก KTB และ SCB เป็น Top pick และ SCB ยังจะได้รับผลบวกจากสินเชื่อที่ดูดีที่สุดในเดือนกรกฎาคม 2568

KTB ราคาเป้าหมายที่ 27.00 บาท อิง 2025E PBV ที่ 0.80x (-0.50SD below 10-yr average PBV) จาก Asset Quality ที่แข็งแกร่งจากการเน้นปล่อยสินเชื่อภาครัฐ ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำและรองรับกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ รวมถึงมี Dividend Yield สูงราว 7% นอกจากนี้ยังมี Coverage Ratio ที่ยังอยู่ในระดับสูงถึง 194%

SCB ราคาเป้าหมายที่ 140.00 บาท อิง 2025E PBV ที่ 0.95x (-0.75SD below 10-yr average PBV) จากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2568 ที่จะเติบโตได้โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม และมีเงินปันผลที่สูงที่สุดในกลุ่มที่ราว 9% ประกอบกับแนวโน้ม NPL ที่มีการปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ