AIMC เสนอแนวทางฟื้นความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย ดันการออมภาคบังคับ-เร่งตั้งกอง TISA ดึงดูดนักลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 27, 2025 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติตลาดทุนไทยยังเป็นตลาดที่สามารถลงทุนได้ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง และเป็นตลาดที่สมเหตุสมผล (Reasonable Market) สำหรับการลงทุน แม้ปัจจุบันสภาพคล่องจะถูกดึงไปยังตลาดที่มีการเติบโตสูงกว่า แต่ปัจจัยพื้นฐานและคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนไทยยังคงไม่ด้อยกว่าประเทศอื่น โดยหากเพิ่มมูลค่าตัวเองได้ ทำให้ตลาดทุนไทยกลับมามีความน่าสนใจในสายตานักลงทุนอีกครั้งหนึ่ง

นโยบายที่ภาครัฐกำลังอย่างการดึงดูดการลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะ Data Center หรืออุตสาหกรรมใหม่ ๆ ซึ่งไทยมีโครงสร้างพื้นฐานในการรองรับอยู่แล้ว ต้องพยายามให้เกิดการลงทุนในระยะยาว หากเป็นไปตามแผนเชื่อว่าจะเป็นจะเพิ่มมูลค่าให้ไทยน่าสนใจได้ ขณะเดียวกัน การพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Hub) เชื่อว่าจะสร้างโอกาสในการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งในด้านตลาดทุน ตลาดการเงินต่างๆ

ขณะที่ประเด็นการเมืองในประเทศ และปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา อาจเป็นปัญหาที่กดดันระยะสั้น เนักลงทุนต่างชาติให้น้ำหนักประเด็นดังกล่าวค่อนข้างน้อย เนื่องจากมองว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่ยืดเยื้อ

นางชวินดา เสนอแนวคิดสำคัญเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเสถียรภาพให้กับตลาดทุนไทย ได้แก่ การออมภาคบังคับ นอกจากจะเป็นการวางแผนการเงินหลังเกษียณให้ประชาชน ยังช่วยลดความผันผวนให้กับตลาด ที่สำคัญคือทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดทุนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น

อีกแนวคิดที่มีการนำเสนอคือ Investment Saving Account หรือตัวอย่างโครงการ Nippon Individual Savings Account (NISA) ของญี่ปุ่น โดยของไทยชื่อโครงการ Thailand Individual Saving Account (TISA) ซึ่งจะเป็นการรวมผลิตภัณฑ์ ของตลาดทุนเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียว นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามต้องการ และเป็นการวางแผนระยะยาวให้กับคนไทยในการบริหารการลงทุนของตัวเองได้ดีขึ้น

ส่วนเรื่องของ Trust ในเชิงป้องกัน เสนอให้หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สร้างแพลตฟอร์มกลางแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้การตรวจสอบและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning) ให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

สำหรับการวางแผนการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของกองทุนวายุภักษ์ จะยังคงเน้นการลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ (Domestic Consumption) ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตที่ดี และจะมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนตามสภาวะตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นที่มี Valuation ตึงตัวแล้วไปลงทุนในหุ้นที่ Valuation เหมาะสม นอกจากนี้จากเงินปันผลที่ได้รับทำให้มีเม็ดเงินใหม่ในการลงทุน โดยจะมุ่งเน้นลงทุนอย่างเหมาะสม และด้วยสภาวะตลาดปัจจุบันมองว่าน่าจะยังอยู่ได้ด้วย Valuation ของตัวเอง และหวังว่ากองทุนวายุภักษ์ให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าที่เราคาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ