สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 82,733 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขาย สูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 3,981 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 1,540 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 958 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 1.17% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.01%
Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 1-2 bps. ในตราสารระยะยาว ด้านผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลในวันนี้รุ่น LB353A อายุ 10 ปี วงเงิน 20,000 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนของผลประมูลอยู่ที่ 1.3033% สูงกว่า Yield ตลาดของวันก่อนหน้า 1 bps. โดยมีผู้สนใจยื่นประมูลสูงถึง 2.79 เท่าของวงเงิน และรุ่น LB726A อายุ 50 ปี วงเงิน 7,000 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนของผลประมูลอยู่ที่ 2.0493% สูงกว่า Yield ตลาดของวันก่อนหน้า 1 bps.โดยมีผู้สนใจยื่นประมูลสูงถึง 1.54 เท่าของวงเงิน สำหรับกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET INFLOW 458 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET BUY 958 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 500 ล้านบาท ด้านปัจจัยต่างประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา รายงานแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.2% ในไตรมาส 3/2568 หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 0.5% ในไตรมาส 1 และขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2 ด้านปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 13 ส.ค.68 ซึ่งมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ลง 0.25% ต่อปี จาก 1.75% เป็น 1.50% ต่อปี โดยมองว่านโยบายการเงิน ควรอยู่ในระดับ ผ่อนคลาย เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน ควรคำนึงถึงการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน ในระยะปานกลาง และขีดความสามารถของนโยบายการเงินที่มีจำกัด