นางสาวกัณธิมา แจ้งวันสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามราชธานี [SO] เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ว่าบริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพให้กับองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ พร้อมนำเสนอบริการเพื่อพัฒนารูปแบบการดำเนินงานของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาทิ บริการ Business Process Outsourcing หรือ BPO, บริการให้คำปรึกษา และ บริการด้าน Digital Transformation
เสริมด้วยบริการเสริมศักยภาพองค์กรด้วยการควบคุมต้นทุนแรงงาน Cost Plus Model, Robotic Process Automation หรือ RPA และ Multi-skill Workforce พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ อาทิ กลุ่มธุรกิจยานยนต์, โรงพยาบาล, อสังหาริมทรัพย์ และ หน่วยงานราชการ โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมภายในปี 2568 ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทมีสัดส่วนรายได้ในธุรกิจหลัก ประกอบด้วย SO PEOPLE ธุรกิจจัดหาบุคลากร บริหารแรงงานมืออาชีพ และ Valet Parking ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดถึง 71%, SO WHEEL บริการรถเช่า และ ช่วยบริหารยานพาหนะ มีสัดส่วน 18%, SO GREEN โซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน สัดส่วน 6% และ SO NEXT ธุรกิจเทคโนโลยีและดิจิทัล ในสัดส่วน 5% อ้างอิงจากแนวโน้มที่ผ่านมา เป็นไปได้สูงว่า รายได้ปี 2568 จะอยู่ที่ราว 3,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีจำนวนรวม 1,360 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทมุ่งเน้นผลักดันธุรกิจ SO NEXT บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรปัจจุบันที่มุ่งใช้เทคโนโลยีในการดำเนินงานเป็นหลัก ส่งผลให้มีปริมาณความต้องการใช้บริการของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าธุรกิจดังกล่าวจะเป็นการสร้าง New S-Curve ใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว
"แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในปัจจุบันยังคงฟื้นตัวช้า พร้อมเผชิญแรงกดดันจากดอกเบี้ย และ ปัญหาเงินเฟ้อ แต่ภาพรวมตลาดธุรกิจ Outsourcing และ BPO ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการปรับตัวขององค์กรต่างๆ ที่ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมทั้งการใช้ทรัพยากรอย่างยืดหยุ่น ขณะเดียวกันกระแส Digital Transformation เริ่มมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะบริการ RPA, AI, BPM, E-Flow, E-MODA, และ E-DMS กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก ซึ่ง SO มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่จะนำเสนอบริการดังกล่าวในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เพื่อร่วมพัฒนาองค์กรให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ และสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปพร้อมกัน"ด้านผลการดำเนินงานงบเฉพาะกิจการไตรมาส 2/68 (งวด 3 เดือน สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2568) มีรายได้รวม 746.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142.0 ล้านบาท หรือ 23.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 604.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 85.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 301.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/67 ที่มีกำไรสุทธิ 21.2 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 1,437.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,207.5 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้น 230.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 16.7%