ก.ล.ต.ปรับปรุงเกณฑ์ข้อกำหนดโบรกที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้มีผลตั้งแต่ 1 ก.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 2, 2025 14:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ผู้ประกอบธุรกิจ) ที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ ซึ่งรวมถึงการดูแลรักษาทรัพย์สิน และการรวบรวมและประเมินข้อมูลของลูกค้า (KYC) เพื่อให้ทรัพย์สินของลูกค้ามีความปลอดภัยและสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568

ตามที่ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ การดูแลรักษาทรัพย์สิน และการรวบรวมและประเมินข้อมูลของลูกค้า เมื่อช่วงเดือน มีนาคม เมษายน 2568 โดยผู้แสดงความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยตามที่ ก.ล.ต. เสนอ ก.ล.ต. จึงปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ โดยมีสาระสำคัญดังนี้

(1) การปรับปรุงข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ โดยมีลำดับการดำเนินการ เริ่มจากการระงับการให้บริการเฉพาะธุรกิจที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบ การโอนทรัพย์สินและฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของลูกค้าไปยังผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ และการล้างฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

(2) การผ่อนผันการจำกัดการประกอบธุรกิจ กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย ซึ่งไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้โดยมีสาเหตุจากมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ประกอบธุรกิจเก็บรักษาหรือปริมาณการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถขอผ่อนผันการจำกัดการประกอบธุรกิจเฉพาะส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ โดยต้องแสดงได้ว่ายังมีสภาพคล่องเพียงพอให้สามารถประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ตามปกติ

(3) การปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า เพิ่มข้อยกเว้นกรณีการโอนทรัพย์สินของลูกค้า โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากลูกค้า สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ การโอนตามคำสั่งที่อาศัยอำนาจตามกฎหมายอื่น และการโอนที่เกิดจากผู้ประกอบธุรกิจประสงค์จะเลิกหรือโอนกิจการตามประเภทใบอนุญาต

(4) การปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการรวบรวมและประเมินข้อมูลของลูกค้า เพิ่มข้อยกเว้นให้ผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนทรัพย์สินของลูกค้าสามารถให้บริการขายหลักทรัพย์และลดฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแก่ลูกค้าที่รับโอนมาดังกล่าวได้ ในระหว่างที่ยังรวบรวมและประเมินข้อมูลของลูกค้า (KYC) ไม่แล้วเสร็จ ตามเงื่อนไขที่กำหนด

ทั้งนี้ การปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ