(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์เชื่อมั่น ครม.คนนอกร่วมฟื้นเศรษฐกิจ-หวังเฟดลดดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 9, 2025 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ หรือไซด์เวย์อัพ โดยที่ยังคงมีแรงหนุนจากปัจจัยในประเทศในการที่เริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับการตั้งคณะรัฐมนตรีเข้ามาเตรียมเดินหน้าทำงาน โดยเฉพาะรายชื่อรัฐมนตรีที่มาจากคนภายนอก ทำให้ตลาดมีความมั่นใจในการฟื้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น

ขณะเดียวกันค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากกระแสเงินทุน (Fund flow) ที่ไหลเข้ามา ยังช่วยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยได้ ประกอบกับ Sentiment ของตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้น จากความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้าวันนี้ปรับตัวส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น

โดยให้แนวต้าน 1,275 จุด แนวรับ 1,260 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (8 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,514.95 จุด เพิ่มขึ้น 114.09 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,495.15 จุด เพิ่มขึ้น 13.65 จุด หรือ +0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,798.70 จุด เพิ่มขึ้น 98.31 จุด หรือ +0.45%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดลบ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 43,907.55 จุด เพิ่มขึ้น 263.74 จุด หรือ +0.60% และหลังจากตลาดเปิดทำการได้ 15 นาที ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้น 413.77 จุด หรือ +0.95% แตะระดับ 44,057.58 จุด ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นทะลุระดับ 44,000 จุดเป็นครั้งแรก ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,711.07 จุด เพิ่มขึ้น 77.16 จุด หรือ +0.30% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,811.67 จุด ลดลง 0.84 จุด หรือ -0.02%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ก.ย.) 1,266.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด (+0.10%) มูลค่าซื้อขาย 54,546.06 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (8 ก.ย.) 1,414.12 ลบ.

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. (8 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 62.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ก.ย.) อยู่ที่ 4.46 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 31.63 แข็งค่าต่อเนื่อง จับตา Flow-ราคาทอง คาดดกรอบวันนี้ 31.60-31.80

- นักวิเคราะห์ค่าเงินชี้ "เงินบาท แข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี" และยังพบสัญญาณ ยังแข็งค่าต่อเนื่อง หลังค่าเงินบาทหลุด 32 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าสุดนำภูมิภาค "กรุงไทย" ชี้มีโอกาสแข็งค่าขึ้นไปแตะระดับ 31.50 บาท ต่อดอลลาร์ ธปท.ชี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 7% จากต้นปี นำหน้าสกุลเงินภูมิภาค ย้ำจับตาใกล้ชิด เล็งออกมาตรการสกัดบาทแข็งค่าจากผลกระทบราคาทองพุ่ง แนะเอกชนป้องกันความเสี่ยง

- "ปลัดคลัง" พร้อมเดินหน้า "คนละครึ่ง" เฟสใหม่ผ่าน "เป๋าตัง" ได้ทันที ใช้งบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจปี 69 ที่มี 2.5 หมื่นล้านบาท "นักวิชาการ" ชี้ "คนละครึ่ง" 2.0 ต้องปรับเงื่อนไข แนะโมเดลจีนเพิ่มเกณฑ์ใช้จ่ายเงินขั้นต่ำ เร่งใช้จ่ายหมุนเงินเข้าระบบ "ภาคธุรกิจ" แนะเพิ่มวงเงินใช้จ่ายผ่าน คนละครึ่ง ดำเนินการให้เร็ว ขยายให้ครอบคลุมท่องเที่ยวโรงแรม

- โผอนุทิน 1 ยังไม่นิ่ง เก้าอี้ "รมว.กลาโหม" ยังไม่ชัดเอาใคร อนุทิน โพสต์ภาพ "บวรศักดิ์" ตอบรับรองนายกฯ แล้ว รัฐบาล 4 เดือนโควตาคนนอกคึกคัก 6 กระทรวง 6 คน "ศุภจี" จากดุสิตธานีมานั่ง รมว.พาณิชย์ "บิ๊กป้อม" ประกาศไม่รับตำแหน่ง พร้อมอยู่เบื้องหลังช่วยเหลือ "กล้าธรรม" ผวาชื่อถูกตีกลับส่ง "อามินทร์-นเรศ" นั่งแทน "เท้ง" ยังกั๊กแนวคิด พท. แถลงนโยบายปุ๊บไม่ไว้วางใจปั๊บ เหน็บต้องการตรวจสอบหรือล้างแค้น "บิ๊กอ้วน" จ่อนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.นัดสุดท้ายอำลาเก้าอี้

- ผอ.ท่าอากาศยานภูเก็ต มั่นใจไฮซีซันนี้ภูเก็ตคึกคักแน่ สายการบินต่างชาติจองบินเข้าเพียบ รัสเซียบินเข้าเพิ่มเป็นอันดับหนึ่ง "แอร์ฟรานซ์" เตรียมบินเข้ามาครั้งแรก คาดผู้โดยสารทะลุวันละ 70,000 คนเหมือนปี 62 อย่างแน่นอน

*หุ้นเด่นวันนี้

- ICHI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 69 ที่ 14 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/68 ที่ 360 ลบ. +12% q-q, +1% y-y ได้แรงหนุนมูลค่าตลาดชาเขียวเดือน ก.ค.กลับมา +2.1% y-y เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส แนวโน้มรายได้ ก.ค. ฟื้นตัว q-q และดีต่อใน ส.ค.แม้เป็น Low Season ผู้บริหารมั่นใจว่าแนวโน้ม H2/68 จะดีกว่า H1/68 เราประเมินกำไรปี 68 ที่ 1.3 พันลบ. -3% y-y และกลับมาเติบโต +7% y-y ในปี 69 จุดเด่นคือ Dividend Yield ที่สูงราว 10% ต่อปี รวมถึงเป็นหนึ่งในหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์บวกจากโครงการ "คนละครึ่ง" หากรัฐบาลนำกลับมา

- TASCO (ดีบีเอสฯ) "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 16.70 บาท คาดจะได้อานิสงส์น้ำท่วมทำให้ต้องซ่อมถนนในหลายพื้นที่ รวมทั้งยังมีเงินงบประมาณปี 68-69 สร้างถนนต่อเนื่อง นอกจากนั้นคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งทั่วไปด้วย แนวโน้มกำไร H2/68 คาดว่าจะเพิ่ม HoH จากความต้องการซื้อยางมะตอยในประเทศเพิ่มขึ้น ประเมินกำไรสุทธิปี 68-69 ขยายตัว 15% และ 13% หนุนโดยรายได้และมาร์จิ้นที่ดีขึ้น

- BCPG (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงถัดไป มีทิศทางที่ดีขึ้นมาก จากการทยอยเริ่ม COD โครงการต่างๆ และคาดจะไม่มีการตั้งด้อยค่าในจำนวนมากอย่างช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ผสานรายได้จากการขายไฟใน US จะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 3/68 เป็นต้นไป จากการปรับค่าความพร้อมจ่ายที่เร่งขึ้นแบบก้าวกระโดดตามความต้องการไฟฟ้าที่รองรับ datacenter ที่เพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ