นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัยสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มหุ้นไทยเช้านี้ คาดยังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ โดยระยะสั้นรอปัจจัยใหม่ขับเคลื่อนดัชนี ทั้งนี้ยังมองตลาดยังยืนได้ จากความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนส.ค.น้อยกว่าที่ตลาดคาด
ขณะที่ปัจจัยในประเทศระยะสั้นอยู่ในช่วงติดตามความชัดเจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่จำกัดดาวน์ไซด์ดัชนี กลยุทธ์การลงทุนวันนี้แนะนำหุ้น Laggard โดยเลือก EGCO เนื่องจากมองว่ากระแสการลดดอกเบี้ยของเฟดทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) สหรัฐมีโอกาสถูกดดัน และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้กลุ่มโรงไฟฟ้ายังได้ประโยชน์
โดยให้กรอบแนวรับ 1,270 จุด และแนวต้าน 1,290 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,490.92 จุด ลดลง 220.42 จุด หรือ -0.48%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,532.04 จุด เพิ่มขึ้น 19.43 จุด หรือ +0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,886.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.57 จุด หรือ +0.03%
- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดลบ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 43,876.22 จุด เพิ่มขึ้น 38.55 จุด หรือ +0.09%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,987.49 จุด ลดลง 212.77 จุด หรือ -0.81% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,806.06 จุด ลดลง 6.16 จุด หรือ -0.16%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 ก.ย.) 1,278.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.97 จุด (+0.15%) มูลค่าซื้อขาย 42,552.94 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (10 ก.ย.) 1,806.12 ลบ.
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. (10 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ก.ย.) อยู่ที่ 3.98 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.77 กลับมาแข็งค่ารับดอลลาร์อ่อน หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐต่ำคาด
- สงครามภาษีจีน-สหรัฐพ่นพิษ หอการค้าอเมริกันในเซี่ยงไฮ้เผยธุรกิจอเมริกัน 47% มีแผนโยกการลงทุนที่เตรียมไว้ในจีนไปประเทศอื่นมากสุดเท่าที่เคยสำรวจส่วนใหญ่มาอาเซียน กนอ.ชี้ ผู้พัฒนานิคมฯเร่งขยายพื้นที่รับลงทุน 3 ปี ตั้งนิคมฯใหม่ 3.4 หมื่นไร่ เตรียมเสนอบอร์ดเคาะอีก 2 แห่ง ส.อ.ท.มั่นใจไทยดึงกลุ่มย้ายฐานการผลิตจากจีน จับตาสหรัฐเคาะเกณฑ์ Local Content หนุนลงทุน
- "ปลัดคลัง" แจงแล้ว 11 ล้านคนที่ยื่นแบบภาษีได้สิทธิ์ "คนละครึ่ง" 60:40 ส่วนประชาชนทั่วไปรับ 50:50 ชี้เดินเครื่องเดือน ต.ค. มีงบกลาง 2.5 หมื่นล้านบาทรองรับ ภาคเอกชนขานรับโครงการดี เพิ่มกำลังซื้อลดค่าใช้จ่าย หนุนเพิ่มวงเงิน 200 บาท/วัน ฝากรัฐบาลกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน
- นายกฯหนูขอเวลา เผยตรวจประวัติ รมต.ต้องใช้เวลา ยันยังไม่มีบุคคลใดถูกตีตก พร้อมเปิดตัว "ศุภจี" ว่าที่ รมว.พาณิชย์ พากินเค้กส้ม เผยเบื้องหลังจีบให้ร่วม ครม.ยกประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง ขอประชาชนเชื่อมั่นประสบการณ์ ขับเคลื่อนนโยบายมีประสิทธิภาพ ด้าน "ศุภจี" เปิดใจขอนำประสบการณ์ทั้งหมดทุ่มเททำงานระยะสั้น รับทำไม่ได้ทุกเรื่องแต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด
- มติเสียงข้างมาก ศาล รธน.ชี้รัฐสภาฯ มีอำนาจ ริเริ่มแก้ รธน.ฉบับใหม่ได้ แต่ต้องถามประชาชนก่อน โดยต้องทำ ประชามติรวม 3 ครั้ง ครั้งที่ 1-2 รวมกันได้ สภาฯ ไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่าง รธน.ได้โดยตรง
- จับตา! รัฐบาล "อนุทิน" จ่อปรับโครงสร้างราคาพูลก๊าซใหม่ อิงราคาต้นทุนอ่าวไทยเป็นราคากลาง แทน Single Pool Gas ตามนโยบายการลดค่าครองชีพประชาชน พร้อมผลักภาระต้นทุน LNG ให้ภาคอุตสาหกรรรม
- WHA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 3.80 บาท มองเชิงบวกไทยได้ภาษี 19% ของสหรัฐใกล้เคียงกับเพื่อนบ้าน บริษัทเผยยังเห็นความต้องการเพิ่มขึ้นจากนักลงทุน Data Center ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สนใจอย่างมากในการซื้อที่ดิน 470 ไร่ และ 530 ไร่ในช่วงครึ่งหลังของปี 68 ขณะเดียวกัน ประธานเจโทรกรุงเทพฯ ระบุนักลงทุนญี่ปุ่นยังเลือกไทยเป็นฐานผลิตเนื่องจากมาตรการภาษีสหรัฐไม่ได้กระทบการลงทุนญี่ปุ่นในไทยมากนักด้วยเป้าหมายส่งออกหลักคือเอเชียและออสเตรเลีย อีกทั้ง WHA ยังขยายธุรกิจให้เช่าพื้นที่โลจิสติกส์อย่างต่อเนื่องตามความต้องการลงทุนเพิ่มขึ้นหนุนการเติบโตของรายได้ในอนาคต
- IVL (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 23.20 บาท เป็นกลุ่ม China Play มี sentiment บวกจากการความคาดหวังรัฐบาลจีน-อินเดียออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับ sentiment บวกจากความพยายามควบคุมกำลังการผลิตส่วนเกินของจีน-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น รวมถึงประเด็นใหม่สหรัฐรวม PET เข้าในรายการสินค้าเรียกเก็บภาษีตอบโต้มีผล 8 ก.ย.68 ส่งผลบวกต่อธุรกิจของ IVL ในสหรัฐแข่งขันได้ดีขึ้น แนวโน้ม H2/68 คาดฟื้นตัว HoH ปริมาณขายจากธุรกิจ CPET เพิ่มขึ้นเพราะผ่านการปิดซ่อมบำรุง ขณะที่ Integrated PET Spread ทยอยฟื้น ส่วนปี 68 คาดพลิกเป็นกำไรสุทธิ 4.1 พันล้านบาท จากปี 67 ขาดทุน 1.9 หมื่นล้านบาท หลังผ่านการทำ asset optimization ปิดโรงงานที่ไม่ทำกำไรทำให้ค่าใช้จ่ายคงที่ลดลง
- BDMS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 31 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/68 ยังเติบโต q-q ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ y-y อาจชะลอจากรายได้ก.ค.-ส.ค.ลดลงตามจำนวนโรคระบาดและช่วงเวลาที่เหลือกับปีก่อน แต่คาดว่าจะเริ่มเห็นโมเมมตัมที่ดีขึ้นและลุ้นพลิกกลับมาบวกในเดือน ก.ย.ประเด็นผู้ป่วยกัมพูชามีผลกระทบบางส่วนแต่คาดมีโอกาสผ่อนคลายในระยะถัดไปหลังการประชุมเจรจาระหว่าง 2 ประเทศมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น คาดกำไรปกติจะเร่งตัวขึ้นจาก +2% y-y ปี 68 เป็น +7% y-y ในปี 69