เปิดประเด็นด้วยข่าวที่กำลังอยู่ในกระแสหลัก Exchange ไทยมีเงินโอนออกกว่า 1,700 ล้านบาท จะตั้งใจโอน? หรือถูกแฮ็ก? แล้วเป็นของ Exchange ไหน? แถมดูทรงแล้วเหมือนจะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในอดีตนานแล้ว แต่ทำไมเรื่องถึงเพิ่งแดงเอาตอนนี้? ขัดแย้งภายใน? หรือเอกสารหลุดโดยบังเอิญ? แล้ว ก.ล.ต. ล่ะ รู้เรื่องมาก่อนหรือเปล่า? งานนี้สงสัยต้องรอให้ ก.ล.ต. ออกมาชี้แจง!!
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเพจ The Big Secret โพสต์ภาพเอกสารรายงานภายในของ Exchange ไทยแห่งหนึ่งที่พบว่าเหรียญคริปโทฯ ถูกโอนออกไปมูลค่าความเสียหายกว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งมีแต่เหรียญบน Ethereum chain ทั้งนั้น แถมมี transaction ID แปะไว้ด้วย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ และเป็นความเสียหายของ Exchange ใด?
แน่นอนว่า Exchange ชื่อดังหลายเจ้าก็ออกมาแสดงตัว พร้อมประกาศว่าไม่ใช่ Exchange ของตัวเอง พร้อมเน้นย้ำว่า "สินทรัพย์ยังอยู่ครบ ลูกค้าวางใจได้"
แล้วเป็นเอกสารของ Exchange ไหนล่ะ!! สายลับบล็อกเชนทำงานทันที ทาง Cryptomind research ได้มีการแกะรอยเส้นทางของเหรียญฯ จำนวน 42 ล้านดอลลาร์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งก็ดูมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเคสเดียวกับ Exchange ที่มีโอนออกที่กำลังเป็นประเด็นในตอนนี้ เรียงตาม timeline แบบเข้าใจง่าย ๆ
จากข้อมูล onchain เริ่มต้นวันที่ 10 พ.ค.2564 กระเป๋าเงินหลักได้มีการโอนเหรียญคริปโทฯ จำนวนมากไปยังกระเป๋ารอง แต่ที่น่าสนใจคือ ธุรกรรมที่โอนจากกระเป๋าหลักไปกระเป๋ารอง เกิดในบล็อกเดียวกัน ซึ่งอาจสันนิษฐานได้ว่าไม่ได้เกิดจากการใช้บริการของแพลตฟอร์มตามปกติ และมีความเป็นไปได้ว่าผู้โอนออกตั้งใจโอนออกไป
คราวนี้เหรียญที่ถูกโอนออกจาก Exchange จะไปอยู่ที่กระเป๋ารอง แบ่งเป็น 2 เส้นทาง ดังนี้ เส้นทางที่ 1 เกิดขึ้นวันที่ 11 พ.ค. 2564 เวลา 02.39 (ตามเวลาไทย) กระเป๋ารองโอนเหรียญคริปโทฯ ไปยังกระเป๋าอีกหลายใบ แล้วมาจบปลายทางที่ Centralized Exchange 2 เจ้าดังระดับโลก แล้วฝากเข้า tornado cash ซึ่งเปรียบเสมือน "เครื่องปั่นเงินดิจิทัล" ที่ทำให้ตามรอยต้นทางได้ยากมากๆ
ส่วนเส้นทางที่ 2 เป็นการโอนไปที่กระเป๋าอื่นหลายกระเป๋าเช่นกัน มีทั้งการ swap เป็นเหรียญอื่น แล้วไปจบที่ Tornado Cash และตอนนี้เหรียญคริปโทฯ ทั้งหมดในถูกขายเป็น ETH และส่งไปปกปิดเส้นทางที่ Tornado Cash เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ถึงจะพยายามปกปิดแค่ไหน คนร้ายก็ยังทิ้งร่องรอยสำคัญเอาไว้ เพราะดันไปใช้บัญชีเดียวกันบน Exchange ระดับโลก ซึ่งแปลว่า... ถ้าอยากจะตามจับจริงๆ ก็อาจสามารถตามได้จากข้อมูลยืนยันตัวตน (KYC) ของ Exchange ต้นทางและปลายทาง
ไหน ๆ เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว แถมผ่านมาตั้ง 4 ปีแล้วด้วย แต่อยากชวนทุกคนมองในอีกมิติหนึ่ง ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าเอกสารนี้เป็นเอกสารจริงหรือไม่? และเป็นเอกสารของ exchange ไหน? และประเด็นที่อยากชวนทุกคนคิดตาม ไม่ใช่แค่ "ใครคือคนร้าย?" แต่เป็นคำถามที่กระทบกับความเชื่อมั่นของพวกเราทุกคนมากกว่า
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ทำไม Exchange ที่เสียหายถึงเลือกที่จะเงียบมาตลอด 4 ปี? สำนักงาน ก.ล.ต. ทราบถึงเหตุการณ์นี้มาก่อนหรือไม่? และที่สำคัญที่สุด... ในฐานะนักลงทุน เราจะกล้าฝากเงินไว้กับบริษัทที่อาจเคยมีความลับระดับพันล้านซ่อนอยู่ได้ยังไง?
ย้ำก่อนว่าเท่าที่ได้รับรายงานมา ตอนนี้ยังไม่มีความเสียหายกับนักลงทุนหรือผู้ใช้งาน แต่ถ้าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แค่เหรียญหาย แล้วคุณชดเชยให้ แต่มันคือการปกปิดข้อมูลสำคัญบางประการ น่าจะกระทบกับหลักธรรมาภิบาล สำหรับผู้ทำธุรกิจด้วย
ล่าสุดทาง ก.ล.ต. ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และกำลังอยู่ในกระบวนการติดตามตรวจสอบหาความจริงเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของทุกคนกลับมา!!
หลายคนน่าจะเห็นข่าวแล้วที่ Strategy ของพ่อใหญ่ Michael Saylor ไม่ได้ติดทำเนียบ S&P500 ทั้งที่คุณสมบัติต่าง ๆ ก็ครบถ้วนหมด มูลค่าตลาด สภาพคล่อง จำนวนหุ้นซื้อขายในตลาด
ทางด้าน Eric Balchunas ผู้เชี่ยวชาญด้าน ETF จาก Bloomberg ได้โพสต์บน X ว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับ "คณะกรรมการคัดเลือก" ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจว่าบริษัทใดจะได้เข้าร่วมในดัชนี และ "ต้องเข้าใจว่าโดยพื้นฐานแล้ว S&P 500 เป็นกองทุนที่มีผู้จัดการ (Active Fund) ซึ่งบริหารโดยคณะกรรมการลับ"
แล้วใครล่ะที่ติดโผ S&P500 แทน Strategy??
คำตอบคือ Robinhood แพลตฟอร์มซื้อขายดิจิทัลที่กำลังขยายธุรกิจสู่คริปโทฯ อย่างจริงจัง และหลังจากติดทำเนียบ S&P500 ก็ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งสูงขึ้นถึง 7% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลในวันที่ 22 กันยายน นี้
ก่อนหน้านี้ ในทำเนียบ S&P500 มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ อยู่แล้ว 2 เจ้า นั่นคือ แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Coinbase (COIN) และ Block (XYZ) ของ แจ็ค ดอร์ซีย์ ซึ่งตอนนี้ Robinhood จะได้เข้าร่วมทำเนียบแล้ว
เกาะกระแสเหรียญกันหน่อยเมื่อ Worldcoin (WLD) เหรียญขวัญใจคนไทย แค่สแกนม่านตาก็ได้ตัง ราคาพุ่งทะยาน เมื่อช่วงวันที่ 9 ก.ย. กว่า 53% เทียบในรอบสัปดาห์ ขึ้นมากว่า 119% ทำราคาสูงสุดที่ 2.211 ดอลลาร์ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
และคำถามที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุด นั่นคือ เข้าตอนนี้ทันมั้ย?? คำถามนี้ไม่มีใครตอบได้ เพราะราคาก็ขึ้นมาสูงแล้วจริง ๆ แต่ก็มีนักลงทุนบางคนที่วิเคราะห์กราฟราคา Worldcoin ว่ามีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปถึง 4 ดอลลาร์ และทะยานแตะ 12 ดอลลาร์ได้ในขาขึ้นรอบนี้ ถ้าทะลุผ่านแนวต้านได้หมด แต่จะเกิดจริงรึเปล่า? ไม่มีใครบอกได้!
https://youtu.be/QJJqB2jwEvs