TEAMG เฮ! สบน.ปรับราคากลางที่ปรึกษาดันค่าจ้างพุ่ง 14% แย้มรับงานใหม่ 2.9 พันลบ.โต 85%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 16, 2025 12:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

TEAMG เฮ! สบน.ปรับราคากลางที่ปรึกษาดันค่าจ้างพุ่ง 14% แย้มรับงานใหม่ 2.9 พันลบ.โต 85%

นายระพี ผ่องบุพกิจ ประธานกรรมการ บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ [TEAMG] เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ในฐานะหน่วยงานกลางที่กำหนดราคามาตรฐานงานจ้างที่ปรึกษา ได้กำหนดหลักเกณฑ์ราคากลางการจ้างที่ปรึกษาฉบับใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม โดยทำหนังสือแจ้ง ปลัดกระทรวง อธิบดี เลขาธิการ ผู้อำนวยการ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา หัวหน้ารัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารท้องถิ่น และหัวหน้าหน่วยงานอื่นของรัฐให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เป็นต้นไป

ในการปรับราคากลางการจ้างที่ปรึกษาใหม่นี้ส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัท โดยเฉพาะที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัท มีการปรับราคากลางเพิ่มขึ้นประมาณ 14% โดยบริษัทดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การศึกษา ออกแบบ จัดทำรายงาน บริหารโครงการ ควบคุมก่อสร้าง และการก่อสร้างโครงการ รวมถึงการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

"TEAMG นับเป็นบริษัทที่ปรึกษารายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ มีประสบการณ์ในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐมากว่า 47 ปี ส่วนใหญ่เป็น โครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงข่ายรถไฟ รถไฟฟ้า ระบบถนน การพัฒนาท่าอากาศยานและท่าเรือ รวมถึง เขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ เป็นต้น ล่าสุด บริษัทและพันธมิตรได้รับเลือกเป็นผู้สำรวจและออกแบบสนามบินภูเก็ตระยะที่ 2 กับบมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] หรือ ทอท. มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท และร่วมกับพันธมิตรได้เป็นผู้สำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงระยะที่ 1 กับ ทอท. ดังนั้นการปรับหลักเกณฑ์ราคากลางการจ้างที่ปรึกษาฉบับใหม่จึงเป็นประโยชน์กับบริษัทอย่างมาก"

นายระพี กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของผลประกอบการบริษัท ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการรับงานได้เกินกว่าเป้าที่วางไว้ ทั้งงานที่ปรึกษา และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ด้าน Engineering Procurement & Construction (EPC) โดยบริษัทมีงานที่ยังไม่ส่งมอบ (Backlog) ณ เดือนสิงหาคม 2568 มูลค่า 5,404 ล้านบาท และได้รับงานในปี 2568 นับถึงปัจจุบันเป็นมูลค่ากว่า 2,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% เทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ