HILITE: หุ้นแม่ลูก FSMART-FORTH พุ่งแรงรับอานิสงส์นโยบายรัฐบาลใหม่-กระตุ้นเศรษฐกิจหนุนเติมงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 17, 2025 16:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) และ บมจ. ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงบ่ายวันนี้ โดยคาดว่าเป็นการตอบรับเชิงบวกต่อสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่

เมื่อเวลา 16.08 น. ราคาหุ้น FSMART พุ่งขึ้น 8.72% มาอยู่ที่ 8.10 บาท ส่วนหุ้น FORTH เพิ่มขึ้น 7.64% แตะระดับ 8.45 บาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เริ่มหันมาเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากนโยบายเหล่านี้

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ ระบุว่า ราคาหุ้น FSMART ปรับตัวขึ้นวันนี้คาดได้รับอานิสงส์จากประเด็นการเมืองในประเทศท รวมทั้งได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งนักลงทุนเริ่มหมุนมาเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย รวมทั้งหุ้นที่มีผลประกอบการเติบโตมากขึ้น

ขณะเดียวกันบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า FSMART เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายกระตุ้นภาคบริโภคของรัฐบาลชุดใหม่ และเป็นหุ้นขนาดกลางที่ Valuation ยังไม่สูง เรามองว่าตลาดจะเห็นถึงอานิสงค์เชิงบวกมากขึ้นหลังแถลงนโยบายของรัฐบาล ระหว่างนี้ เราแนะนำ "สะสม"

นายภาดล วรรณรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า FSMART จะได้ประโยชน์จากมาตรการของพรรคภูมิใจไทย ที่จะปรับขึ้นเงินเดือนให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งหนุนธุรกิจสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน โดยบริษัทมุ่งเน้นกลุ่มข้าราชการ การทำสัญญาให้บริษัทสามารถหักเงินจากบัญชีเงินเดือนของลูกค้าได้โดยตรง ทำให้หนี้เสียและการตั้งสำรองของบริษัทค่อนข้างต่ำ

ขณะเดียวกันธุรกิจอื่น ๆ เป็น Cash Cow หรือสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอให้บริษัท ธุรกิจตู้เติมเงินบุญเติม แม้จะไม่มีการเติบโตมาก แต่นโยบายของรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยจะผลักดันรายได้ประชาชนระดับกลาง-ล่าง ประกอบกับตู้เติมเงินตัดค่าเสื่อมครบจำนวนแล้ว พร้อมกับการอัพเดท Software และการเพิ่มบริการใหม่ ทำให้ตู้เติมเงินยังสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง

ในระยะยาวบริษัทจะมีรายได้จากตู้เต่าบินและตู้ชาร์จำไฟฟ้า (GINGA EV) เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าขยายตู้เต่าบิน 10,000 ตู้ และตู้จุดชาร์จไฟฟ้า 1,000 แห่งในปีนี้

เบื้องต้นประเมินกำไรปี 68 ที่ 600 ล้านบาท โต 39.4% YoY ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วน PER ปี68 เพียง 8.7x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 3 ปี 1 S.D. ทำให้เรามองว่าน่าสนใจทั้งในแง่ของการเติบโตในอนาคตและในแง่ของ Valuation ยังไม่แพง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ