CRC ลบ 8.94% มาที่ 22.40 บาท ลดลง 2.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 833.65 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.20 น .จากราคาเปิด 23.80 บาท ราคาต่ำสุด 22.30 บาท ราคาสูงสุด 23.90 บาท
นักวิเคราะห์บล.กสิกรไทย มองว่าราคาหุ้น บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น [CRC] อาจจะมีแรงขาย Sell on fact หลังจากที่ประกาศดีลขายห้าง Rinascente ในอิตาลี ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น CRC มีการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก อาจจะมาจากการเก็งกำไรในประเด็นนี้หรือไม่ แต่ในด้านผลกระทบของธุรกิจมองว่ามี Downside ต่อ CRC จำกัด เพราะห้าง Rinascente ในอิตาลีสร้างกำไรให้กับ CRC ราว 200-300 ล้านบาท/ปี ถือว่ามีสัดส่วนไม่มาก และที่ผ่านมาก็ไม่มีการขยายสาขาใหม่ ๆ เพิ่มเติม การที่ CRC ขายออกไปก็จะได้รับเงินมาใช้ในการคืนหนี้ ทำให้หนี้ลดลง และมีเงินรองรับการลงทุนใหม่ ๆ ในอนาคตได้ ทั้งการขยายสาขา และการซื้อกิจการเข้ามา เป็นต้น และโฟกัสของ CRC ก็เริ่มหันมาเน้นในอาเซียนมากขึ้น ทำให้เป็นเหตุผลในการขายห้าง Rinascente ออกไป
ในส่วนของผู้ถือหุ้นมองว่าจะได้ประโยชน์จากดีลดังกล่าวในแง่ของเงินปันผลพิเศษที่จะได้รับจากที่ CRC ประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษ 1.28 บาท/หุ้น ซึ่งรวมกับเงินปันผลปกติจะให้ Yield ราว 7.6% ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น แต่อนาคตของการนำเงินลงทุนจากการขายมาใช้ในธุรกิจอาจจะยังต้องรอติดตามจากทาง CRC
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มีมุมมองไม่ค่อยบวกกับดีล CRC ขายห้าง Rinascente ในอิตาลี ให้กับห้างเซ็นทรัลดีพาร์ทเมนท์สโตร์ (HCDS) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CRC เนื่องจากราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาตลาด โดยมูลค่าดีลมี P/E ราว 9.1 เท่าต่ำกว่าเฉลี่ยของกลุ่มที่กว่า 10 เท่า และอัตรากำไรของ CRC จะลดลงหลังขายออกไป เพราะสินทรัพย์นี้ทำมาร์จิ้นได้สูง ส่งผลต่อการคาดการณ์กำไรสุทธิปี 69 จะลดลงราว -10%
ขณะที่ บล.กสิกรไทย ระบุหลังจากที่เสร็จสิ้นการประชุมนักวิเคราะห์ของ CRC มีโทนที่ออกมาเป็นลบอยู่เล็กน้อย จากการที่ภาพของการเติบโต CRC ในระยะถัดไปที่ค่อนข้างมีความท้าทายในการที่จะต้องหาการขยายธุรกิจมาชดเชยกำไรจากห้าง Rinascente ในอิตาลีที่หายไป เพราะกำไรจากห้างนี้จะหายไปราวเกือบ 1 พันล้าน/ปี ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 200-300 ล้านบาท/ปี
โดยผู้บริหารให้ข้อมูลว่าจะหันมาขยายธุรกิจในไทย ซึ่งยังรอสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว พร้อมกับการมุ่งขยายในเวียดนามเชิงรุกมากขึ้น พร้อมกับมองหาโอกาสใหม่ๆในการโตแบบ inorganic แต่อาจจะยังไม่เห็นในปี 69 แต่จะเริ่มในปี 70 ทำให้ภาพของการขยายธุรกิจมาชดเชยกำไรจาก ห้าง Rinascente ยังไม่ชัดเจนในระยะยาว แม้ว่าในระยะสั้นผู้ถือหุ้นจะได้ประโยชน์จากเงินปันผล แต่ในระยะยาวก็มีความท้าทายในมากขึ้นเช่นเดียวกัน