
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยสถิติการดำเนินการของ "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" โทร. 1207 กด 22 ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.ย.68 ได้รับแจ้งเบาะแส 6,354 ครั้ง โดยก.ล.ต. แจ้งปิดกั้นโดยตรงกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจำนวนรายการ 2,881 รายการ ซึ่งสามารถปิดกั้นแล้วทั้งหมด ขณะที่ก.ล.ต. แจ้งปิดกั้นผ่านหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จำนวนรายการ 155 รายการ ปิดกั้นได้แล้ว 131 รายการ
จำนวนบัญชีที่ ก.ล.ต. แจ้งปิดกั้นโดยตรงกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์ม Facebook สูงสุด 2,139 รายการ LINE 87 รายการ TikTok 624 รายการ Instagram 31 รายการ
สถิติการดำเนินการของ "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" ในปี 2568 (1 ม.ค. 15 ก.ย.) ก.ล.ต.ได้รับแจ้งเบาะแสหลอกลงทุน รวมทั้งสิ้น 6,354 ครั้ง ผ่านระบบรับแจ้งใน 6 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์สำนักงานก.ล.ต. (www.sec.or.th/scamalert) โทรศัพท์ (1207 กด 22) อีเมล ([email protected]) การเดินทางมายังสำนักงาน ระบบบริการสนทนา และไปรษณีย์ โดยมีบัญชีโซเชียลมีเดียเข้าข่ายหลอกลงทุนที่ประสานผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและหน่วยงานภาครัฐเพื่อปิดกั้น จำนวน 3,036 บัญชี ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ปิดกั้นไปแล้วร้อยละ 100 ภายในเวลา 7 นาที-48 ชั่วโมง และให้คำปรึกษาในเรื่องการหลอกลงทุน จำนวน 3,318 ครั้ง
ทั้งนี้ การดำเนินการปิดกั้นช่องทางการหลอกลงทุนบนแพลตฟอร์มต่าง ๆจะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนรายอื่นตกเป็นเหยื่อถูกชักชวนหลอกลงทุน และมีกระบวนการตรวจสอบ ตั้งแต่ตรวจสอบข้อมูล เก็บพยานหลักฐานเตรียมเอกสารและข้อมูลเพื่อใช้ในการปิดกั้น ติดต่อผู้แจ้งเบาะแสเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ค้นหาข้อมูลที่ได้รับจากการแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม
รวมถึงติดต่อผู้ถูกใช้ชื่อในการหลอกลงทุนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการดำเนินการด้วยความรอบคอบเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการหลอกลงทุนจริง และระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการปิดกั้นเกิดขึ้น นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศในการป้องกันการถูกชักชวนหลอกลงทุนให้แก่ประชาชน ผู้ลงทุนและผู้ประกอบธุรกิจและหน่วยงานในตลาดทุน ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในประเทศ
(1) เปิดรับสายตรงจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30 24.00 น. เพื่อให้ประชาชนหรือผู้ลงทุนที่จะดำเนินการแจ้งความและอายัดบัญชีกับ AOC 1441 แต่ยังไม่มั่นใจว่าถูกชักชวนหลอกลงทุนหรือไม่
(2) เข้าร่วมศูนย์บริการเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และด้านมนุษย์นานาชาติ (War Room) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(3) เพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูล SEC Check First บน Cyber Check* ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้ประชาชนและผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลก่อนการลงทุน (สามารถสามารถดาวน์โหลดทั้งระบบiOSและAndroid)
(4) เข้าร่วม/จัดกิจกรรม แคมเปญ หรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความตระหนักรู้และป้องกันการถูกชักชวนหลอกลงทุนให้แก่ประชาชน ผู้ลงทุน และผู้ประกอบธุรกิจและหน่วยงานในตลาดทุน ซึ่งมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง