ต้อนรับเหรียญใหม่อย่าง DOGE และ XRP เหรียญ memecoin และ Altcoin อีกหนึ่งตัวที่ได้รับการอนุมัติให้เทรดได้ในรูปแบบของ ETF สร้างความฮือฮาแก่วงการด้วยรูปแบบการถือครองที่แตกต่างจาก SPOT ETF แบบเดิม ๆ ภายใต้ Investment Company Act of 1940 ที่ไม่ได้ถือครองผ่านกองทุน แต่จะถือครองผ่านบริษัทย่อยแทน ถือเป็นทางเลือกใหม่แก่นักลงทุนที่มองว่า DOGE และ XRP มีโอกาสเติบโตในอนาคต
มาแล้วกับ ETF ของเหรียญ DOGE แล้วก็ XRP แต่งวดนี้ไม่ได้เป็น ETF แบบเดิม ๆ แต่เป็นแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งตัวกฎหมายที่จดทะเบียนก็เป็น Investment Company Act of 1940 ซึ่งต่างจาก Spot Bitcoin หรือ Ethereum ETF ที่เคยใช้กัน
ส่วนโมเดลการถือครอง ก็ไม่ได้ถือโดยกองทุนโดยตรง แต่จะเป็นการถือ (ลงทุน) ผ่าน "บริษัทย่อย" ที่จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน ซึ่งบริษัทย่อยนี้จะเป็นผู้ถือครอง Spot XRP กับ DOGE แทน และถึงแม้จะไม่ใช่การถือโดยตรง แต่ก็เป็นช่องทางที่ถูกกฎหมายและเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงผลตอบแทนของเหรียญเหล่านี้ได้
และการที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ แสดงท่าทีเปิดไฟเขียวต่อผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่แค่ Bitcoin และ Ethereum สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากสถาบันลงทุนที่อยากเข้าถึงตลาด Altcoin
ทั้งนี้ XRP และ DOGE ก็เป็นเพียงเหรียญกลุ่มแรกในคิว ปัจจุบันยังมีคำขอกว่า 90 รายการสำหรับ ETF ที่อ้างอิงคริปโทฯ อื่น ๆ เช่น Avalanche และ Litecoin ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่า ก.ล.ต.สหรัฐ อาจเริ่มตัดสินใจในบางรายการได้เร็วที่สุดภายในเดือนตุลาคม โดยบางกรณีมีโอกาสอนุมัติสูงถึง 95%
อย่างไรก็ตาม การที่ XRP และ DOGE ETF ได้รับอนุมัติสำเร็จ ก็เป็นการเปิดทางให้เงินลงทุนใหม่ไหลเข้าสู่ตลาดได้หลายพันล้านดอลลาร์ และเป็นแรงขับเคลื่อนให้การยอมรับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่อิง Altcoin แพร่หลายมากขึ้น
จากรายงานของ Financial Times รัฐมนตรีคลังอังกฤษ Rachel Reeves และรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ Scott Bessent ได้มีการพูดคุยถึงความร่วมมือด้านการกำกับดูแลคริปโทเคอร์เรนซี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนจากสถาบันการเงินและบริษัทคริปโทฯ ยักษ์ใหญ่เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็น Bank of America, Barclays, Circle, Citi, Coinbase และ Ripple
ย้อนกลับไปสัปดาห์ก่อนหน้า กลุ่มอุตสาหกรรมคริปโทฯ เพิ่งกดดันรัฐบาลอังกฤษให้บรรจุ Stablecoin และ Tokenization เข้าไปในโครงการ U.S.-UK Tech Bridge ซึ่งเป็นความร่วมมือทวิภาคีที่แต่เดิมโฟกัสแค่เทคโนโลยีล้ำ ๆ อย่าง AI, ไซเบอร์ซีเคียวริตี้, ควอนตัม และ ไบโอเทคโนโลยี
เหตุผลคือ หากอังกฤษไม่ผลักดันสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าไปด้วย ก็อาจเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ เดินหน้าไปไกลในการกำหนดอนาคตการเงินโลก
นอกจากนี้ Hester Peirce กรรมาธิการ ก.ล.ต.สหรัฐฯ เคยเสนอแนวคิด "Cross-Border Sandbox" ที่ให้บริษัทคริปโตในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรทดลองทำธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลร่วมกันเป็นเวลา 2 ปี
การหารือครั้งนี้เกิดขึ้นพอดีกับจังหวะที่ประธานาธิบดี Donald Trump เดินทางถึงอังกฤษในช่วงเย็นวันเดียวกัน ยิ่งทำให้กระแสความร่วมมือระหว่างสองประเทศถูกจับตามองมากขึ้นไปอีก
ส่วนทางฝั่ง Ripple ให้ความเห็นว่า ความร่วมมือนี้อาจจะกลายเป็นต้นแบบของการทำงานร่วมกันระดับนานาชาติในวงการคริปโทฯ เพราะสหราชอาณาจักรเองก็มีทั้งเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ตลาดทุนลึก และบุคลากรคุณภาพ ทำให้มีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก
และนี่คือสัญญาณที่ประเทศมหาอำนาจต่างต้องให้ความสำคัญกับคริปโทเคอร์เรนซีแบบจริงจัง ประเทศไทยเองก็อาจต้องเริ่มวางแผนแล้ว
ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ พากันทยอยเก็บสะสมบิทคอยน์เรื่อย ๆ ตอนนี้ก็ลามมาถึง สโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศสและแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลล่าสุด อย่าง Paris Saint-Germain หรือ PSG ที่ประกาศว่า "พวกเขาได้เริ่มถือครอง Bitcoin (BTC) อย่างเป็นทางการแล้ว" ถือเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลรายใหญ่ที่สุดของโลกที่ก้าวเข้าสู่ตลาดคริปโทฯ โดยตรง
การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในโลกกีฬาที่สโมสรชั้นนำเริ่มมองเห็นบทบาทของคริปโทเคอร์เรนซีไม่ใช่แค่ในฐานะสปอนเซอร์หรือพันธมิตรเชิงการตลาด แต่ยังรวมถึงการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงินในระยะยาว
ตัวสโมสร PSG เองก็เป็นสโมสรที่เปิดรับนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดตัว Fan Token ของตัวเอง และร่วมมือกับบริษัทคริปโทฯ ระดับโลกหลายแห่ง
การตัดสินใจถือครอง Bitcoin จึงถูกมองว่าเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างวงการฟุตบอลกับเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างชัดเจนขึ้น และเชื่อว่าการที่สโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่อย่าง PSG เข้าสู่ตลาด Bitcoin จะยิ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมกีฬาระดับโลกอื่น ๆ ก้าวตามมา สะท้อนกระแสการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ขยายวงกว้างเกินกว่าตลาดการเงิน และเริ่มเข้ามามีบทบาทในวัฒนธรรม กีฬา และสังคมกระแสหลัก
https://youtu.be/dDcmDy9dBNk