
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ [LEO] เปิดเผยว่า บริษัทเข้าร่วมโครงการ JUMP+ ภายใต้การดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีเป้าหมายสำคัญในการสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนและตลาดทุนไทยให้ยกระดับการเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยบริษัทจะต้องจัดทำแผนธุรกิจ แผนด้านธรรมาภิบาลและแผนด้าน Climate Action ที่มีการเติบโตที่ชัดเจนและวัดผลได้ภายใน 3 ปี (69-71) สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ทาง LEO กำลังวางแผนธุรกิจ 3 ปีพอดี บริษัทจึงเล็งเห็นประโยชน์อย่างมากที่จะใช้แนวทางของโครงการ JUMP+ มาเป็นกรอบในการวางแผนงาน พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณและคำแนะนำปรึกษาจากบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำที่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรของโครงการ JUMP+
LEO มีกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเดินหน้ายกระดับมาตรฐานธรรมาภิบาลและพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยเฉพาะ Green & Sustainable Logistics ที่บริษัทฯ ได้พัฒนานวัตกรรมและบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลูกค้าลดต้นทุน ควบคู่กับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ LEO ยังมีแผนสร้าง Eco System & Platform เพื่อการขนส่งที่เป็น Sustainable Logistics และต่อยอดไปสู่ธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics มากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายของแหล่งรายได้ และเพิ่มโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ให้กับบริษัท เพื่อให้การเข้าร่วมโครงการ JUMP+ ในครั้งนี้เกิดผลสำเร็จสูงสุด และช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว
"เรามั่นใจว่าการเข้าร่วมโครงการ JUMP+ จะไม่เพียงช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตและการเป็นผู้นำของ Green & Sustainable Logistics และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและผู้ถือหุ้น รวมถึงสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับ LEO ในฐานะผู้นำของธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Logistics) " นายเกตติวิทย์ กล่าวJUMP+ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สนับสนุนบริษัทจดทะเบียนให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการ และการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยบริษัทที่เข้าร่วมจะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งในเชิงงบประมาณที่ได้รับ การสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการสื่อสารกับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น